xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาไม่ง้อโรงสีขอสีข้าวขายเองในหมู่บ้านได้ราคาสูงกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ผลพวงจากราคารับซื้อข้าวเปลือกยังตกต่ำ ทำให้ชาวนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์หลายรายไม่เสี่ยงที่จะนำข้าวไปขายที่ลานรับซื้อ หรือโรงสีใหญ่ ระบุเกรงถูกกดราคา จึงนำข้าวขึ้นไปเก็บในยุ้งฉาง รอขายให้เพื่อนบ้านในช่วงปลายปีต่อไป ที่คาดว่าจะได้ราคา กก.ละ 12-15 บาท

นายศุภาวุฒิ สุวรรณดี อายุ 50 ปี ชาวนาบ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากที่ได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับราคารับซื้อข้าวเปลือกทุกชนิดตามลานรับซื้อ และโรงสีใหญ่ ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ กก.ละ 5-6 บาท ข้าวเหนียว กก.7-8 บาท โดยชาวนาที่นำข้าวไปขาย ต่างบอกว่าได้ราคาต่ำมาก นับเป็นช่วงวิกฤตราคาข้าวในรอบ 10 ปี ที่ทำให้ชาวนาที่นำข้าวไปขายประสบกับปัญหาขาดทุน

นายศุภาวุฒิบอกว่า เมื่อสถานการณ์ราคาข้าวไม่ปกติ ที่น่าจะอยู่ที่ กก.ละ 9-10 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ชาวนาอยู่ได้ และพ่อค้าคนกลางไม่แบกรับภาระเกินไป แต่ความเป็นจริงทุกวันนี้ราคารับซื้อยังไม่กระเตื้องขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนการทำนาแล้วไม่คุ้ม เพราะชาวนาในปัจจุบันนี้ต้องลงทุนใช้เงิน ใช้เครื่องยนต์การเกษตร และปุ๋ยเคมีที่ราคาสูง เมื่อรวมกับค่าน้ำมัน ค่าแรงถอนกล้า ค่าปักดำ ค่าเกี่ยวข้าว ค่ามัดข้าว ค่าขนข้าว ค่าสีข้าว และอาหารคนงานด้วยอีก เฉลี่ยลงทุนไร่ละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท

ขณะที่ผลผลิตได้ไร่ละประมาณ 300 กก. ขาย กก.ละ 5 บาท ได้เงิน 1,500 บาท ซึ่งขาดทุน

“มีนาอยู่ 8 ไร่ ปลูกข้าวเหนียวทั้งหมด โดยเป็นนาหว่าน อยู่นอกเขตชลประทาน ต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ผลผลิตจึงไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทุกปีแบ่งขายครึ่งหนึ่งและเก็บไว้บริโภคอีกครึ่งอีกหนึ่ง ปีนี้ประเมินว่าได้ผลผลิตต่ำจึงไม่ได้เข้าร่วมโครงการจำนำยุ้งฉาง กะจะเก็บไว้บริโภคในครัวเรือน”

อย่างไรก็ตาม เมื่อสีเป็นข้าวเปลือกแล้วได้ประมาณ 2,400 กก. หากนำไปขายคงขาดทุนจึงจะกักตุนข้าวไว้ในยุ้งฉาง และรอขายให้เพื่อนบ้านที่มาขอซื้อในช่วงปลายปี 2560 ซึ่งจะได้ราคาสูงถึง กก.ละ 12-15 บาท เพราะในช่วงปลายปีของทุกปีจะขายในหมู่บ้านราคานี้ซึ่งเคยขายเป็นประจำทุกปี” นายศุภาวุฒิกล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น