ประจวบคีรีขันธ์ - รองราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม 12 ต้น ยืนต้นตายธรรมชาติในพื้นที่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อใช้จัดสร้างพระบรมโกศ ตกแต่งพระเมรุมาศ และทำดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี และแห่เก็บเครื่องบวงสรวงนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต และครอบครัว
วันนี้ (14 พ.ย.) ช่วงระหว่างเวลา 14.09-14.39 น.ที่บริเวณมณฑลพิธี อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวุฒิ สุมิตร รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ เป็นประธานในพิธีบวงสรวง และตัดไม้จันทน์หอมเพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย นายจำลอง ยิ่งนึก ผู้อำนวยการกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้างานโหรพราหมณ์ เจ้าหน้าที่หอจดหมายเหตุ นายธัญญา เนติธรรม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบฯ นายชาตรี จันทรวีระชัย นายอำเภอกุยบุรี นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง และนายนิธิ อาจสมรรถ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนมาก ร่วมประกอบพิธีพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม 12 ต้น โดยใช้ต้นที่ 1 (15 เดิม) เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญครั้งนี้ ซึ่งต้นไม้จันทน์หอมทั้ง 12 ต้น เป็นไม้ยืนต้นตายธรรมชาติในพื้นที่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
โดยบริเวณด้านหน้าของต้นไม้จันทน์หอมต้นที่ 1 (ต้น 15 เดิม) มีการตั้งโต๊ะเครื่องบวงสรวง ตลอดจนเครื่องสังเวยต่างๆ โดยเมื่อ นายวุฒิ สุมิตร รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ ได้เดินทางไปถึงบริเวณมณฑลพิธีต้นไม้จันทน์หอมต้นที่ 1 (ต้นที่ 15 เดิม) ได้ทำการการหลั่งน้ำเทพมนต์ พร้อมเจิมบริเวณต้นไม้จันทน์หอม ขณะที่โหรหลวงลั่นฆ้องชัย ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ภูษามาลาไกวบัณเฑาะว์ พร้อมหลั่งน้ำเทพมนต์เจิมขวานทองสำหรับใช้ตัดต้นไม้จันทน์หอม จุดเทียนเงินเทียนทอง ธูปบนโต๊ะเครื่องบวงสรวง และปักธูปบริวารที่เครื่องสังเวยทั้งหมด
ต่อจากนั้น นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้างานโหรพราหมณ์อ่านประกาศบวงสรวง และไปยังบริเวณต้นไม้จันทน์หอมต้นที่ 1 (ต้นที่ 15เดิม) ประพรมน้ำเทพมนต์ที่ต้นไม้จันทน์หอม และใช้ขวานทองสับที่ต้นไม้จันทน์หอม 3 ครั้ง เป็นปฐมฤกษ์ พร้อมโปรยข้าวตอกดอกไม้รอบบริเวณต้นไม้จันทน์หอม โหรหลวงทำการลั่นฆ้องชัย ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ภูษามาลา ไกวบัณเฑาะว์
หลังจากนั้น จึงดำเนินการลงขวานทองสับต้นไม้จันทน์หอมที่เหลือทุกต้นพร้อมๆ กัน โดยใช้ฤกษ์ประกอบพิธีตั้งแต่ 14.09-14.39 น. เป็นอันเสร็จพิธีโดยในวันนี้ แต่ยังไม่มีการตัดไม้จันทน์หอมใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีแล้ว หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี แห่เก็บเครื่องไหว้บวงสรวงนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต และครอบครัว
นายธัญญา เนติธรรม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว๋ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการสำรวจ ได้พบไม้จันทน์หอมยืนต้นตายตามธรรมชาติ บริเวณป่าดิบแล้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ 9 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไว้จำนวน 19 ต้น และคัดเหลือ 12 ต้น โดยต้นไม้จ้นทน์หอม เนื้อไม้มีกลิ่นหอมปานกลาง และมีลักษณะไม้เปลาตรงกลม
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้อนุมัติการตัดและแปรรูปไม้จันทน์หอมแล้ว โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมการแปรรูปไม้ จำนวน 3 ราย ซึ่งประกอบด้วย เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ประธานคณะกรรมการ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ เป็นกรรมการ และนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการเป็นกรรมการและเลขานุการ หลังจากดำเนินการแปรรูปไม้เสร็จแล้วจะดำเนินการส่งมอบไม้จันทน์หอมทั้งหมดให้แก่สำนักช่าง 10 หมู่ต่อไป
ส่วนจะดำเนินแปรรูปซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไป และการเสร็จสิ้นวันไหนนั้นคงต้อใช้เวลาการดำเนินการประมาณ 30 วัน ซึ่งขณะนี้ต้องประส่านงานกับทางสำนักช่าง 10 หมู่ต่อไปว่าจะใช้ไม้ชนาดเท่าไหร่ ทางเจ้าหน้าที่ อช.กุยบุรี ถึงจะดำเนินการต่อไป
ด้านนายวุฒิ สุมิตร รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ กล่าวว่า พิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอมวันนี้สมพระเกียรติอย่างยิ่ง เป็นประเพณีโบราณ ตัดไม้แล้วต้องพลี ซึ่งไม้จ้นทน์หอมทั้ง 12 ต้นเป็นไม้ยืนต้นตาย
ขณะเดียวกันนายจำลอง ยื่งนึก ผอ.กองพระราชพิธี กล่าวว่า วันนี้เป็นพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอมเป็นปฐมฤกษ์ เท่านั้นเพื่อเป็นการชอขมาเทพยดาอารักษ์ทั้ง 12 ต้น เพื่อนำไปจัดจัดสร้างพระโกศทรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม ทำตามประเพณีโบราณที่เคยถือปฏิบัติมา ตามขั้นตอนตั้งแต่ต้นที่ 1 ถึงต้นที่ 12 ด้วยการหลั่งน้ำเทพมนต์ ลงชวานทองที่ต้นไม้จันทน์หอม 3 ครั้ง และโปรยข้าวตอกดอกไม้ทุกต้น เจ้าหน้าที่จดหมายเหตุมาบันทึก เก็บภาพทั้งหมดไว้เป็นประวัติศาสตร์ ครั้งนี้พิธีมีความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อทำพิธีแล้วจะเกิดความเป็นสวัสดิมงคล บันดาลความสำเร็จ
อนึ่ง ความสำคัญสำหรับอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการตัดต้นไม้จันทน์หอมไปใช้ในงานพระราชพิธีพระบรมศพ ทั้งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และครั้งนี้ไปใช้ในพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สำหรับไม้จันทน์หอม จัดเป็นไม้หายาก มีค่า มีอยู่ในภูมิภาคแถบนี้เท่านั้น ทั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นไม้โตช้า ลำต้นไม่ใหญ่มากนัก คนโบราณจัดว่า “ไม้จันทน์หอม” จัดเป็นไม้มงคลชั้นสูงที่มีกลิ่นหอมในทุกส่วนของลำต้น ไม่ว่าจะเป็นแก่น เปลือก กระพี้ เหตุเพราะไม้จันทน์หอม มีความหอมไม่ว่าจะเป็น หรือตาย จึงเปรียบเหมือนคนเมื่อเกิดมาทำความดี ตายแล้วก็ยังมีความดีอยู่คนโบราณจึงนำไม้จันทน์หอมมาเผาศพเรียกว่า “ดอกไม้จันทน์” จนถึงปัจจุบันนี้
สำหรับไม้จันทน์หอม ซึ่งใช้ในงานพระราชพิธีนับแต่สมัยพุทธกาล และพบประวัติการใช้ไม้จันทน์หอมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย และสมัยกรุงรัตน์โกสินทร์ โดยที่ผ่านมา มีการนำมาสร้างพระโกศ และพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตราบถึงปัจจุบันนี้
