เมืองไทย 360 องศา
“เรื่องสำคัญคืออย่าไปสร้างปัญหาอีกเลยเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การแก้ไขอะไรต่างๆ เหล่านี้ ผมบอกแล้ว และสิ่งที่ผมพูดขอให้จำไว้ด้วย ผมไม่เคยไปเลื่อนขั้นตอน ขั้นตอนยังมีเหมือนเดิมทุกประการ เวลาทุกอย่างมีหมดตามเวลา 240 วัน 150 วัน 90 วัน มีหมด สุดแต่ว่าขั้นตอนไหนจะไปอยู่ตรงไหน มันทำได้แค่ไหนก็อยู่ตรงนั้น ทุกอย่างเริ่มสตาร์ทเมื่อมีรัฐธรรมนูญถาวรลงมา เมื่อลงมาก็นับไปสิ คุณจะไปเลือกเมื่อไรก็ไปเลือกตามนั้น แต่ผมถามว่า ถ้ามีเหตุการณ์มาแทรกในขั้นตอน การเลือกตั้ง หาเสียง หรือการประชุมพรรคในช่วงนั้นตามเวลาเดิม จะเกิดอะไรขึ้น ก็เรื่องงานพระราชพิธีพระบรมศพไง เข้าใจกันเสียบ้าง พอทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินต่อก็แค่นั้นเองเมื่อไรก็เมื่อนั้น”
“ผมไม่ได้ไปดึงยืดเสียเมื่อไร มีใครรู้มาก่อนไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น คิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น สมมติว่า ผ่านไปถึงขั้นตอนการหาเสียงแล้วเลือกตั้งได้ จะตีกันอีกไหม ตอบได้ไหมตีกันหรือเปล่า ทะเลาะกันอีกรึเปล่า เมื่อตอบไม่ได้แล้วจะให้ผมยืนยันนี่โน่น ผมก็ยืนยันขั้นตอนของผม 240 วัน 150 วัน 90 วัน บวกกันสิ”
“โดยปลายปีนี้หลังพระราชพิธี ผมก็จะให้เดินการเมืองได้ หลังจากพระราชพิธีพระบรมศพ และ บรมราชาภิเษก จากนั้นก็เริ่มจะพูดคุย เตรียมคน จะเลือกตั้งอะไรก็ว่าไป ซึ่งก็ต้องหลังพระราชพิธีพระบรมศพ เรื่องของการเมืองก็เดินไป แต่ถ้าตีกันอีกก็มีปัญหาอีก ผมก็ไม่รู้จะแก้ยังไงเหมือนกัน เมื่อเลือกมาแล้วก็เดินไปตามขั้นตอน ได้เมื่อไรผมไม่รู้ แล้วผมไปแก้ตรงไหน ถ้าผมแก้เหรอก็ให้ไม่ต้องมียกเลิก คัดใหม่ทั้งหมด ต้องใช้สมองคิดสิ อย่าใช้อย่างอื่นคิด”
“พูดมาทั้งหมดเป็นสาระ ไม่ใช่สาระแน นี่ไม่ใช่คำหยาบ แต่เป็นคำไทย อย่าไปเขียนเองบิดเบือนไปเรื่อยเปื่อย ไม่เอา แต่ผมไม่ได้ว่าใคร ส่วนการเมืองวันนี้ ถือว่าเดินหน้าอยู่แล้ว โดยรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกเกิดหรือยัง ก็เดินไปสิ เมื่อหลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีก็จะมีการให้หาเสียง เลือกตั้งปลายปี 2560 และได้รัฐบาลปี 2561”
คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สามารถจับใจความสำคัญได้ว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นหลังจากเสร็จพระราชพิธีสำคัญ คือ “พระราชพิธีพระบรมศพ” และ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันในช่วงปลายปีนี้ นั่นคือ ราวเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งตามกำหนดการเดิมการเลือกตั้งถูกกำหนดเอาไว้ตามโรดแมปว่าจะเกิดขึ้นในราวเดือนธันวาคมปีนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน มันก็ทำให้กำหนดการเดิมต้องเลื่อนออกไปแบบไม่อาจเลี่ยงได้
ที่ผ่านมา ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เลื่อนโรดแมป ไม่เลื่อนกำหนดการเลือกตั้งออกไป หลังจากที่ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาส่งสัญญาณว่า อาจจำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (กฎหมายลูก) ที่สำคัญ 4 ฉบับ อาจเสร็จไม่ทันตามกำหนด
ขณะเดียวกัน ก็มีความคิดเห็นตามมาถึงเรื่องความเหมาะสม เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว (ปลายปี) เป็นช่วงที่มีพระราชพิธีสำคัญดังกล่าว จนหลายคนเห็นว่า บรรยากาศแบบนั้นไม่สมควรที่จะเป็นบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งของพวกนักการเมือง สมควรเลื่อนเวลาออกไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งก็ราวสองสามเดือน จนกระทั่งล่าสุดคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาว่าจะมีรัฐบาลใหม่ราวกลางปี 2561 ก็ถือว่าชัดเจน
แน่นอนว่า เมื่อกำหนดการชัดเจนแล้ว จะต้องมีการเลือกตั้งในราวต้นปีหน้าแทนที่จะเป็นปลายปีนี้ตามโรดแมปเดิมแบบนี้ รับรองว่า ย่อมทำให้กลุ่มการเมืองบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มพรรคเพื่อไทยที่เป็นเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร แทบ “กระอักเลือด” ตายแน่ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาต่างดาหน้าออกมาโวยวายกันยกใหญ่ หลังจากเห็นแนวโน้มว่าจะต้องการเลือกตั้งออกไปเป็นปีหน้า
อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และหากมองในมุมของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะเชื่อว่ามีทางเดียวเท่านั้นที่คิดว่า “การเลือกตั้ง” คือ หนทางที่หวนคืนสู่อำนาจ และ “ทวงคืน” ทุกอย่างให้กลับคืนมา อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าเครือข่ายกลุ่มนี้ ถูกดำเนินคดีกันแบบ “ยกชุด” โดนกันเป็นพรวน ทั้งระดับหัวแถวจนถึงปลายแถว ที่จำไม่ลืม ก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สถานะเวลานี้ขาข้างหนึ่งแหย่คุกเอาไว้แล้ว แล้วไหนจะเสี่ยงถูกยึดทรัพย์จากคดีรับจำนำข้าว นี่ว่ากันเฉพาะระดับหัวใจ หรือแม้กระทั่งตัว “หัวหน้าใหญ่” คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกบังคับใช้กฎหมายแบบจริงจัง นั่นคือ “ถูกถอดยศ” ถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางจนเวลานี้กลายเป็น “นายทักษิณ” เต็มขั้น จนแทบคลั่งกันไปแล้ว
ดังนั้น แน่นอนว่า สำหรับกำหนดการใหม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระบุว่า จะมีรัฐบาลใหม่ในกลางปี 2561 เพราะเข้าใจว่าการเลือกตั้งจะต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม สำหรับชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าคงไม่ขัดข้อง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากผลสำรวจที่ผ่านมา แต่สำหรับพวกนักการเมืองบางกลุ่มนาทีนี้ เชื่อว่า แม้จะไม่ชอบใจ แต่เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศแล้วก็ได้แต่กัดฟันเงียบเสียง หรือหากทนไม่ไหวก็คง “อกแตกตาย” เป็นแน่ !!