เชียงใหม่ - คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานกันมาหมาดๆ หอบเอกสารจูงมือเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม หลังซื้อบ้านหรูแถบสันทราย เชียงใหม่ หวังใช้เป็นเรือนหอครองคู่ แต่พอขนเฟอร์นิเจอร์-ข้าวของจะเข้าอยู่กลับต้องผงะ เจอเห็ด-เชื้อราขึ้นเต็มขอบคิ้วบัวรอบบ้าน ร้องโครงการแล้วกลับดึงเรื่อง จนใกล้หมดสัญญาประกัน
วันนี้ (9 พ.ย.) นายพิษณุพันธ์ คำแวง อายุ 34 ปี จูงมือนางนิภาภรณ์ หน่อแก้ว อายุ 35 ปี ภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปี นำเอกสารหลักฐานจำนวนมากเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ หลังซื้อบ้านหรูในโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแถบ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หวังใช้เป็นเรือนหอครองคู่ โดยตกลงรับโอนบ้านเมื่อธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ก่อนตกแต่งพร้อมนำเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่เมื่อเดือนกันยายน 2559
นายพิษณุพันธ์เปิดเผยว่า ตกลงซื้อบ้านในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งเขต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อหวังสร้างเป็นเรือนหออยู่กับภรรยา โดยตกลงทำสัญญาเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ราคา 2,090,000 บาท และนำเข้าจำนอง-ผ่อนชำระกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เดือนละ 8,000 บาท เป็นเวลา 37 ปี แต่เมื่อขนของและซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เข้าไปเพื่อจะอยู่อาศัย กลับพบมีเห็ดและเชื้อราขึ้นบริเวณคิ้วบัวกันเปื้อนพื้นห้องรับแขกขึ้นมาประมาณ 1 ฟุต เป็นแนวตลอดทั้งหลัง หลังจากพบเหตุการณ์ดังกล่าวจึงไปแจ้งผู้คุมการก่อสร้างโครงการฯให้รับทราบเบื้องต้น และแจ้งทางผู้จัดการโครงการ เมื่อ 30 ก.ย. 59 ซึ่งรับเรื่องไว้ และบอกว่าจะแจ้งทางเจ้าของโครงการทราบ โดยตนได้เขียนข้อร้องเรียนไปตามเอกสารแนบในหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 59
กระทั่ง 16 ต.ค.ได้มีการนัดตนและภรรยาเข้าไปดูบ้านร่วมกับสถาปนิกของโครงการ โดยมีการตรวจสอบพร้อมจดบันทึกรายละเอียดก่อนจะแจ้งกลับมาว่าสาเหตุเกิดจากความชื้นจากใต้ดิน และรับปากว่าจะนำไปเสนอเจ้าของโครงการเพื่อรื้อแก้ไขให้แล้วเสร็จ ทั้งยังสอบถามตนว่าจะใช้วอลเปเปอร์แบบเดิมหรือทาสี ตนจึงแจ้งว่าให้ทาสีก็ได้เพื่อป้องกันปัญหาความชื้น ขณะนั้นได้ตกลงนัดวันเวลาแก้ไข วันที่ 23 ต.ค. 59 เมื่อถึงกำหนดนัดสถาปนิกก็ได้นำช่างโครงการมารื้อคิ้วบัว และวอลเปเปอร์บ้านตนเองที่เป็นเชื้อราตลอดแนวบ้าน แล้วเอาคิ้วบัวที่ถอดออกวางไว้ที่จอดรถหน้าบ้าน ตนจึงไปติดต่อที่สำนักงานโครงการเพื่อพบผู้จัดการโครงการแต่ก็ไม่พบ โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ค่อยรับสาย นัดไม่ตรงเวลา บางครั้งรับก็อ้างว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ และจะให้ตนเองใช้สีทาบ้านราคาถูกที่ไม่มีการกันความชื้น
นายพิษณุพันธ์บอกว่า ที่มาร้องเรียนนี้เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนซื้อบ้านราคาแพงเพื่อใช้เป็นเรือนหอไว้อยู่ร่วมกับภรรยา และต้องผ่อนกับธนาคาร 30 กว่าปี แต่ตอนนี้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ โครงการไม่รับผิดชอบใดๆ เลย เหมือนเร่งสร้างบ้านไม่ได้ตรวจเรื่องความชื้นภายในโครงการทำให้เกิดเชื้อรา-เห็ดตามผนังบ้าน และมุมต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายหากตนเองมีลูก หรือนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน
“เหมือนกับว่าพอปิดการขายแล้วก็หมดหน้าที่ พอขอติดต่อสอบถามเจ้าของโครงการฯ ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ติดต่อ พอร้องเรียน เรื่องก็ไปถึงแค่ลูกน้อง แล้วไม่ดำเนินการให้อ้างว่าไม่มีอำนาจ ต้องยื่นเสนอที่ประชุมผู้บริหาร พอทำหนังสือตอบกลับมา ก็ให้ตนเองออกค่าใช้จ่ายบางส่วน ทั้งๆ ที่ไม่มีใช่ความผิดของผู้ซื้อบ้าน ตนอยากจะขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรม และทาง สคบ.เป็นตัวกลางในการนัดเจรจากับเจ้าของโครงการที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรงเพื่อแก้ไขให้จบก่อนสิ้นปี เพราะจะหมดประกันใน 31 ธันวาคมที่จะถึงนี้แล้ว”
ทั้งนี้ นางสุนทรี อินตา ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้นายเอกราช รังสรรค์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ รับเรื่องเพื่อดำเนินการเรียกมาไกล่เกลี่ยตามขั้นตอนต่อไป
