บุรีรัมย์ -ไม่รอรัฐช่วย หนุ่มชาวนาบุรีรัมย์พึ่งตนเอง พาลูกเมียบรรจุข้าวสารหอมมะลิ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่สีแปรสภาพแล้วใส่ถุงตั้งโต๊ะวางขายริมถนนหน้าบ้าน ผู้ขับรถสัญจรผ่านไปมา และนักท่องเที่ยวแวะซื้อไม่ขาดสาย ยอดขายวันละ 2-3 พันบาท เตรียมชักชวนชาวนาในหมู่บ้านรวมกลุ่มกันขายด้วย
วันนี้ (6 พ.ย.) นายณัฐวัฒน์ มุกดา อายุ 40 ปี ชาวนาบ้านหนองตาไก้น้อย ม.4 ต.หนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ไม่รอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐ ได้ตั้งโต๊ะวางขายข้าวสารหอมมะลิ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่สีแปรสภาพแล้วใส่ถุงๆ ละ 2 กิโลกรัม และ 4 กิโลกรัม วางขายริมถนนหน้าบ้าน หลังจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 5-6 บาท ส่วนมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากทางภาครัฐล่าช้า
โดยข้าวสารหอมมะลิ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ นายณัฐวัฒน์ นำมาวางขายเป็นข้าวที่ปลูกเองบนเนื้อที่ 15 ไร่ แต่พอเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วนำข้าวเปลือกไปขายที่โรงสีกลับได้ราคาต่ำ จึงตัดสินใจนำไปสีที่โรงสีข้าวในหมู่บ้าน แล้วนำข้าวสารที่สีแล้วมาให้ภรรยา และลูกๆ ช่วยกันบรรจุใส่ถุงนำไปวางขายเองหน้าบ้าน ซึ่งข้าวสารหอมมะลิ จะขายในราคากิโลกรัมละ 25 บาท ต่างจากท้องตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 32 บาท ส่วนข้าวไรซ์เบอร์รี่ ขายเพียงกิโลกรัมละ 50 บาท ต่างจากท้องตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 80-100 บาท
หลังจากตั้งโต๊ะวางขายหน้าบ้านมีทั้งประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาแวะซื้อไม่ขาดสาย เพราะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดเนื่องจากไม่ได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยหลังจากนำข้าวมาวางขายเองก็สามารถขายได้เฉลี่ยวันละ 2-3 พันบาท
นายณัฐวัฒน์ บอกว่า ปีนี้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำที่สุดในรอบหลาย 10 ปี หากนำไปขายไม่คุ้มทุนจึงตัดสินใจนำไปสีแปรสภาพ แล้วนำมาวางขายริมถนนหน้าบ้านของตัวเอง ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาต่างแวะอุดหนุนคนละ 2-3 ถุง เพื่อนำไปบริโภค และเป็นของฝากด้วย
นอกจากจะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดแล้ว ยังเป็นข้าวอินทรีย์ปลอดสารเคมีอีกด้วย และหลังจากนี้จะได้ชักชวนชาวนาในหมู่บ้านรวมกลุ่มกันตั้งจุดขายด้วย เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาจากราคาข้าวตกต่ำโดยไม่ต้องรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐเพียงอย่างเดียว