xs
xsm
sm
md
lg

มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทฯ เปิดรับโรงเรียนร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันต่อเนื่องปีที่ 26

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ และเหล่าพนักงาน เปิดรับโรงเรียนระดับประถมศึกษาในพื้นที่ห่างไกลสมัครเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ประจำปี 2559 จำนวน 50 โรงเรียน เน้นพิจารณาโรงเรียนที่มีนักเรียนประสบปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งมีภาวะอ้วน เตี้ย ผอมเกินกว่า 10% ขึ้นไป เข้าเป็นสมาชิกโครงการฯ เพื่อร่วมกันสร้างโภชนาการที่ดีให้เยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกล โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2559 สามารถดาวโหลดใบสมัครได้ที่ www.rurallives.org และ rldflunch@gmail.com

นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” เป็นโครงการที่มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท และซีพีเอฟได้น้อมนำแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ต้องการแก้ปัญหาภาวะโภชนาการต่ำกว่ามาตรฐานของเด็กไทย จึงดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี 2533 หรือกว่า 26 ปีแล้ว

ปัจจุบัน มีโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 604 แห่ง เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 128 แห่ง โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และอื่นๆ 476 แห่ง ช่วยให้เด็กไทยในพื้นที่ห่างไกลกว่า 140,000 คน พ้นจากภาวะทุพโภชนาการได้อย่างเป็นรูปธรรม จากการได้รับโปรตีน และสารอาหารจำเป็นจากไข่ไก่เสริมสร้างโภชนาการที่ดี

ล่าสุด ในปี 2559 นี้ ทางมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ได้เปิดรับโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มอีก 50 แห่ง โดยโรงเรียนที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการสนับสนุน 1) งบประมาณการก่อสร้างโรงเรือนตามแบบมาตรฐานที่กำหนด 2) อุปกรณ์กรงตับ และอุปกรณ์ให้น้ำ พร้อมการติดตั้ง 3) พันธุ์สัตว์ 4) อาหารสัตว์ตลอดระยะเวลาการเลี้ยง 1 รุ่น/56 สัปดาห์ วัคซีน 5) ป้ายโครงการ 6) การอบรมให้ความรู้ สำหรับโรงเรียนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โทร.0-2625-7342

สำหรับโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนนี้ ทางมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท จะเข้ามาดำเนินการด้านการบริหารจัดการโครงการและงบประมาณ การคัดเลือกโรงเรียนที่จะดำเนินงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ การจัดทำแผนการดำเนินงาน การติดตาม และรายงานผล

โดยมีซีพีเอฟเข้ามาสนับสนุนในส่วนของการส่งมอบเทคโนโลยีอันทันสมัยในส่วนของโรงเรือนและอุปกรณ์ รวมถึงมอบพันธุ์ไก่ไข่ พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคนิควิชาการและการจัดการ และเข้าดูแลให้คำปรึกษาแก่อาจารย์ และนักเรียนผู้ดูแลโครงการ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่สดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 มื้อ หรือ 120 ฟองต่อคนต่อปีการศึกษา ได้เรียนรู้การผลิตอาหารปลอดภัยด้วยตนเอง แล้วนำผลผลิตไข่สดที่ได้มาแบ่งปันบริโภคกันภายในโรงเรียนผ่านระบบสหกรณ์โรงเรียน ได้เรียนรู้การจัดการตั้งแต่วัยประถมศึกษา นอกจากนั้น เยาวชนเหล่านี้ยังสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนา และต่อยอดเลี้ยงชีพในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

นายสุปรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท” ได้ก่อตั้งขึ้นโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ และเหล่าพนักงาน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และในมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทให้สอดคล้องต่อแนวพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจในงานพัฒนาสังคมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์

“มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท” ดำเนินงานตามแนวทาง 3 ด้าน เริ่มจากการพัฒนาคน และส่งเสริมอาชีพ นำไปสู่การพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ยุทธศาสตร์ “เศรษฐกิจนำ สังคมตาม ” ผ่านการดำเนินงานใน 5 โครงการหลัก เช่น โครงการส่งเสริมอาชีพในหมู่บ้านสหกรณ์ตามแนวพระราชดำริ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โครงการเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ “7 รายได้ 7 อาชีพ” จังหวัดบุรีรัมย์ โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี โครงการจิตอาสาตอบแทนคุณแผ่นดินถิ่นเกิด

ทั้งนี้ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรับแนวพระราชดำริด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรที่ด้อยโอกาสในชนบทมาดำเนินการตามรอยใต้เบื้องพระยุคลบาท ให้เป็นรูปธรรมที่เป็นตัวอย่าง และสามารถขยายผลได้อย่างยั่งยืน



กำลังโหลดความคิดเห็น