ผู้จัดการรายวัน360-ผบ.ตร.แย้มขอใช้ม.44 แก้กฎหมาย เพิ่มโทษทำผิดวินัยจราจร หวังแก้ปัญหารถติด ปิ้งไอเดีย เปิดแอดไลน์แจ้งปัญหาจราจรกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้านกรมขนส่งทางบกจ่อปรับระบบสอบใบขับขี่ใหม่ อบรมจาก 4 ชม.เป็น 15 ชม. และต้องผ่านข้อเขียน 100%
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดว่า ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรในถนน 21 สายหลักในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ภาพรวมความเร็วดีขึ้นเฉลี่ย 30-45 นาที ส่วนการออกใบสั่ง ก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น มีการออกใบสั่งแล้ว 5 พันใบ และจะดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป โดยเฉพาะการจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเพิ่มยอดใบสั่ง หากประชาชนไม่ทำผิดวินัยจราจร ก็ไม่มีการออกใบสั่งอยู่แล้ว
สำหรับปัญหาฝนตกและน้ำท่วมขังตามถนนต่างๆ ที่ส่งผลให้การจราจรติดขัดนั้น คณะทำงานด้านการแก้ไขปัญหาจราจร ได้ดำเนินการบูรณาการกับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการประสานลอกท่อ และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดต่างๆ ในการบริหารจัดการจราจรแล้ว และยังได้ดำเนินการตัดเกาะกลางถนนและปรับปรุงทางเพื่อเพิ่มผิวการจราจร 3 แห่ง ได้แก่ ถนนผ่านพิภพ ราชดำเนินกลาง แยกศรีเขมา ถนนประชาราษฎร์สาย 1 และบริเวณใกล้แยก ณ ระนอง ซึ่งพบว่า สามารถแก้ไขปัญหาคอขวดและรถติดสะสมได้ดีขึ้นเป็นลำดับ และจะดำเนินการให้ครบทั้ง 21 จุดตามที่ได้สำรวจไว้ต่อไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มช่องทางแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนแจ้งปัญหาจราจรใน กทม. และปริมณฑล โดยประชาชนสามารถแอดไลน์แจ้งเบาะแสได้ โดยสามารถดาวโหลดผ่านคิวอาร์โค้ดได้ที่เฟซบุ๊กกองบังคับการตำรวจจราจร ส่วนช่องอื่นๆ อาทิ สายด่วน 1197 , 1599 รวมทั้งหมายเลข 191 ประชาชนก็สามารถแจ้งได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขปัญหาจราจรยังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ อาจมีความจำเป็นในการพิจารณานำมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ มาใช้พิจารณาแก้กฎหมาย เพื่อเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรให้รุนแรงขึ้น
วันเดียวกันนี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม แนะนำให้มีการปรับเกณฑ์เกี่ยวกับออกใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภทให้มีความเข้มข้นมากขึ้น คือ จากเดิมกำหนดเกณฑ์การสอบผ่านไว้ที่ 45 ข้อ หรือ 90% แต่ต่อไปผู้สอบจะต้องทำคะแนนสอบเต็ม 50 ข้อ หรือ 100% จึงจะมีการออกใบอนุญาตขับขี่ให้
โดยจะเน้นหมวดสำคัญ คือ ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะหากเน้นทุกหมวด หลายคนอาจจะมองว่าข้อสอบมีความยากเกินไป และหากแนวคิดดังกล่าวจะนำมาใช้จริง เจ้าหน้าที่จะมีการนำตัวอย่างข้อสอบ จำนวน 1,000 ข้อ มาโพสต์ลงเว็บไซต์ของทางกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ผู้เข้าสอบได้ศึกษาก่อนเข้าสอบจริง
นอกจากนี้ จะมีการปรับระยะเวลาในการอบรมก่อนเข้าสอบ จากเดิม 4 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง แบ่งเป็นการอบรมด้านวิชาการ 5 ชั่วโมง และอบรมภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง คาดว่าจะมีการนำมาบังคับใช้ในปี 2560
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดว่า ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรในถนน 21 สายหลักในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ภาพรวมความเร็วดีขึ้นเฉลี่ย 30-45 นาที ส่วนการออกใบสั่ง ก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น มีการออกใบสั่งแล้ว 5 พันใบ และจะดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป โดยเฉพาะการจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเพิ่มยอดใบสั่ง หากประชาชนไม่ทำผิดวินัยจราจร ก็ไม่มีการออกใบสั่งอยู่แล้ว
สำหรับปัญหาฝนตกและน้ำท่วมขังตามถนนต่างๆ ที่ส่งผลให้การจราจรติดขัดนั้น คณะทำงานด้านการแก้ไขปัญหาจราจร ได้ดำเนินการบูรณาการกับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการประสานลอกท่อ และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดต่างๆ ในการบริหารจัดการจราจรแล้ว และยังได้ดำเนินการตัดเกาะกลางถนนและปรับปรุงทางเพื่อเพิ่มผิวการจราจร 3 แห่ง ได้แก่ ถนนผ่านพิภพ ราชดำเนินกลาง แยกศรีเขมา ถนนประชาราษฎร์สาย 1 และบริเวณใกล้แยก ณ ระนอง ซึ่งพบว่า สามารถแก้ไขปัญหาคอขวดและรถติดสะสมได้ดีขึ้นเป็นลำดับ และจะดำเนินการให้ครบทั้ง 21 จุดตามที่ได้สำรวจไว้ต่อไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มช่องทางแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนแจ้งปัญหาจราจรใน กทม. และปริมณฑล โดยประชาชนสามารถแอดไลน์แจ้งเบาะแสได้ โดยสามารถดาวโหลดผ่านคิวอาร์โค้ดได้ที่เฟซบุ๊กกองบังคับการตำรวจจราจร ส่วนช่องอื่นๆ อาทิ สายด่วน 1197 , 1599 รวมทั้งหมายเลข 191 ประชาชนก็สามารถแจ้งได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขปัญหาจราจรยังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ อาจมีความจำเป็นในการพิจารณานำมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ มาใช้พิจารณาแก้กฎหมาย เพื่อเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรให้รุนแรงขึ้น
วันเดียวกันนี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม แนะนำให้มีการปรับเกณฑ์เกี่ยวกับออกใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภทให้มีความเข้มข้นมากขึ้น คือ จากเดิมกำหนดเกณฑ์การสอบผ่านไว้ที่ 45 ข้อ หรือ 90% แต่ต่อไปผู้สอบจะต้องทำคะแนนสอบเต็ม 50 ข้อ หรือ 100% จึงจะมีการออกใบอนุญาตขับขี่ให้
โดยจะเน้นหมวดสำคัญ คือ ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะหากเน้นทุกหมวด หลายคนอาจจะมองว่าข้อสอบมีความยากเกินไป และหากแนวคิดดังกล่าวจะนำมาใช้จริง เจ้าหน้าที่จะมีการนำตัวอย่างข้อสอบ จำนวน 1,000 ข้อ มาโพสต์ลงเว็บไซต์ของทางกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ผู้เข้าสอบได้ศึกษาก่อนเข้าสอบจริง
นอกจากนี้ จะมีการปรับระยะเวลาในการอบรมก่อนเข้าสอบ จากเดิม 4 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง แบ่งเป็นการอบรมด้านวิชาการ 5 ชั่วโมง และอบรมภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง คาดว่าจะมีการนำมาบังคับใช้ในปี 2560
