xs
xsm
sm
md
lg

กรมการค้าฯ ปูพรมดันยอดค้าชายแดนเร่งเป้าส่งออก 1.7 ล้านล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - “กรมการค้าต่างประเทศ” เร่งปูพรมเปิดเวทีสัมมนา ดันการค้าชายแดนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศให้ถึงเป้า 1.7 ล้านล้านบาท/ปี พร้อมชงเรื่องถึง รมต.พม่า ไฟเขียวด่านฯ พม่าออก “ฟอร์มดี” ได้เอง ไม่ต้องรอเนปิดอว์

วันนี้ (31 ต.ค.) นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดและจัดสัมมนา “แนวทางการค้าชายแดนเชิงรุกกับพม่า” ที่ห้องดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการค้าชายแดนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายอดุลย์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีหน่วยงานที่มีชื่อใกล้เคียงกันทำให้หลายคนไม่เข้าใจในบทบาท จึงขอชี้แจงว่ากรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ปฏิบัติ และรับผิดชอบกฎหมายสำคัญเพื่อการนำเข้าและส่งออก ส่วนกรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ทำงานเป็นหน่วยงานสนับสนุนส่งเสริม หรือการตลาด เพื่อประโยชน์ของสินค้าไทย และกรมเจรจาระหว่างประเทศ ทำหน้าที่ในการเจรจากับต่างประเทศ ในฐานะที่กรมการค้าต่างประเทศมีบทบาทในแง่ผู้ปฏิบัติ กรมฯ กำลังเร่งพัฒนาบุคลากรการค้าเพื่อให้เกิดผู้ประกอบการคุณภาพ และจะจัดสัมมนาในพื้นที่ 5 จังหวัดที่มีการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษกิจพิเศษโดยเร็ว

ด้านนายนิติ แสงสุกแสง ผอ.กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดน มีนโบายเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทยให้ได้ปีละ 1.7 ล้านล้านบาท แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถทำได้ จึงถือเป็นภาระหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศ ที่จะต้องเร่งดำเนินการ โดยได้เลือก จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในจังหวัดเป้าหมายจัดการสัมมนา เพราะมีการค้ากับพม่าสูงถึงปีละกว่า 12,000 ล้านบาท และเกือบจะเป็นการส่งออกทั้งหมด ส่วนการนำเข้ามีน้อยมาก อีกทั้งอนาคตสินค้าไทยก็ยังสดใสเพราะในประเทศเพื่อนบ้านนิยมสินค้าไทยมากกว่าสินค้าจีนที่มีอิทธิพลในภูมิภาคนี้อยู่มาก

“แม้แต่ในประเทศจีน ที่ผมเพิ่งกลับจากเมืองหนานหนิง พบว่าผลไม้ไทยที่ไปวางจำหน่ายก็ได้รับสิทธิพิเศษไม่ต้องตรวจสอบมากเหมือนสินค้าประเทศอื่นๆ เพราะเขามั่นใจในคุณภาพ”

นายนิติกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เราต้องศึกษาข้อมูลให้มากโดยเฉพาะกรณีศึกษาต่างๆ เพื่อให้การส่งออกและนำเข้าสินค้าชายแดนมีประสิทธิภาพ หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจ คือ สินค้าประเภทไม้ ที่ทางกระทรวงพาณิชย์มีพระราชบัญญัติสินค้านำเข้าและส่งออกปี 2522 ควบคุมให้ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ทางกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ซึ่งมีหน้าที่ที่ชายแดนก็มีกฎหมายเรื่องการผ่านแดนที่ไม่ต้องตรวจสอบ เมื่อเกิดการฟ้องร้องกันระหว่างผู้ประกอบการกับกระทรวงพาณิชย์ เพราะผู้ประกอบการอ้างว่าทำตามระเบียบกรมศุลกากรแล้ว ผลปรากฏว่ากระทรวงพาณิชย์ชนะ เพราะถึงอย่างไรไม้ดังกล่าวก็ถูกจำกัดความเป็นสินค้าส่งออกตามกฎหมาย ขณะสินค้านำเข้าและส่งออกอื่นก็มีข้อกำหนดหลากหลาย เช่น หลายชนิดห้ามนำเข้าและส่งออก หลายชนิดต้องขออนุญาตก่อน จำนวนมากที่ไม่ต้องขออนุญาตใดๆ เลย แต่ทำได้ทันที เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการต้องศึกษาให้ดี

นอกจากนี้ ตามข้อตกลงการค้าในกลุ่มอาเซียน ต้องใช้แบบฟอร์มเดียวกันเพื่อให้ได้รับสิทธิด้านภาษี หรือเรียกกันสั้นว่า “ฟอร์มดี” แต่กรณีไทยและพม่าพบปัญหา คือ ด่านชายแดนของพม่าไม่สามารถออก หรืออนุญาตฟอร์มดีได้ ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกลางที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง ทำให้กระบวนการล่าช้ามาก ล่าสุดเราพยายามเจรจาเรียกร้องให้ทางการพม่าอนุญาตให้ด่านพรมแดนมีอำนาจเรื่องฟอร์มดีอยู่ โดยทำหนังสือถึงรัฐมนตรีของพม่า ขอจัดอบรมเจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดนไทย-พม่า จำนวน 3 รุ่น โดยไทยพร้อมสนับสนุนด้านเอกสาร ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ฯลฯ ด้วยทั้งหมด ถือเป็นการส่งเสริมเพื่อให้มูลค่าการค้าชายแดนของไทยเพิ่มให้ได้เป็น 1.7 ล้านล้านบาทต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น