เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนขึ้นอีกรอบ หลังเกิดฝนตกหนักทางภาคเหนือตอนล่าง-ภาคกลาง

ชัยนาท - เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนขึ้นอีกรอบ หลังเกิดฝนตกหนักทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ส่งผลพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา น้ำจะสูงขึ้นอีก 10-20 เซนติเมตร

วันนี้ (30 ต.ค.) หลังจากเมื่อวานนี้กรมชลประทานได้ประกาศจะระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนักทางภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เช้าวันนี้ เขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนขึ้นอีก 39 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จาก 1,130 เป็น 1,169 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำเพิ่มขึ้น 18 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 12.67 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ต่ำกว่าตลิ่ง 3.67 เมตร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559 นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ได้มีประกาศสถานการณ์น้ำในฤดูฝนปี 2559 ฉบับที่ 16 เรื่องสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา โดยระบุว่า เนื่องจากวันที่ 28 ตุลาคม 2559 ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร อุทัยธานี สุพรรณบุรี ลพบุรี ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำค่ายจิระประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 50-100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำท่าดังกล่าวจะไหลมาถึงบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบัน กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเข้าระบบคลองชลประทานอย่างเต็มศักยภาพทั้งสองฝั่ง เพื่อรักษาสมดุลน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา

จึงจำเป็นต้องทยอยเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 50-100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2559 ปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มนี้ จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10-20 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับตลิ่งแม่น้ำ คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวใช้ระยะเวลา 2-3 วัน