ชัยนาท - ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท ร่อนหนังสือแจ้งเตือน 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น หลังจากน้ำที่หลากทางภาคเหนือเริ่มไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาและไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท มากขึ้นในปริมาณ 850 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนฯ ตั้งแต่ชัยนาท-พระนครศรีอยุธยา น้ำเพิ่มขึ้น 60-80 ซม.
วันนี้ (18 ก.ย.) นายฎรงศ์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท ทำหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 18 กันยายน 2559 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้แต่ละจังหวัดแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณ ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล และ ต.บางกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งบริเวณท้ายแม่น้ำน้อย จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 60-80 เซนติเมตร
ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการไหลของน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ด้วยการบริหารจัดการน้ำเข้าพื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตก และตะวันออก ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ตามศักยภาพที่สามารถรับน้ำเพิ่มได้ โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร
วันนี้ (18 ก.ย.) เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 132 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท อยู่ที่ 15.66 เมตร (รทก.) เพิ่มขึ้น 6 เซนติเมตร ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา อยู่ที่ 11.12 เมตร (รทก.) เพิ่มขึ้น 73 เซนติเมตร