พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่ม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งหลังน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอัตราการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนมากขึ้น พร้อมสั่งเร่งกำจัดผักตบชวาที่อยู่เต็มคลองกว่า 3.6 หมื่นตัน เพื่อเปิดทางน้ำให้สามารถไหลสะดวกขึ้น
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ริมคลองมหาพราหมณ์ วัดนกกระจาบ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจติดตามการกำจัดผักตบชวา และวัชพืชกว่า 3,600 ตัน ที่ขึ้นหนาแน่นอยู่ในคลองยาวกว่า 14 กิโลเมตร เพื่อเร่งเปิดทางน้ำให้น้ำสามารถไหลเวียนได้สะดวก รองรับในช่วงฤดูน้ำหลาก พร้อมกันนี้ ได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนที่อยู่ติดริมแม่น้ำ
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่ม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากปริมาณฝนตกหนาแน่น และมีน้ำหลากในพื้นที่ตอนบนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยวันนี้ (1 ก.ย.) มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาถึง 708 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มสูงขึ้นในเกณฑ์ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ในพื้นที่ตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ซึ่งหากมีการระบายน้ำในระดับ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงขึ้นจากปัจจุบัน 80-120 เซนติเมตร ดังนั้น จังหวัดจึงออกประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
“สถานการณ์ล่าสุด ณ ขณะนี้จังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตอำเภอเสนา และผักไห่ ว่า มีการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) ดังนั้น จะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนที่อยู่พื้นที่ลุ่มต่ำ จึงจำเป็นต้องแจ้งประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของที่จำเป็น และสำคัญไว้ในที่สูง”
นายประยูร รัตนเสนีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ไปจะต้องแจ้งเตือนอีกหลายพื้นที่ เช่น อำเภอผักไห่ บางบาล บางไทร และลาดบัวหลวง พร้อมทำความเข้าใจต่อประชาชนเพื่อให้เตรียมพร้อม ถึงแม้ที่ผ่านมาเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งพบว่าประชาชนให้ความร่วมมือ และยอมรับต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
