พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยคาดว่าในวันที่ 10 ต.ค.59 จะมีน้ำเข้าเขื่อนเจ้าพระยา 2,800 ลบ.ม./วินาที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,000 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และรักษาสมดุลระหว่างน้ำเหนือเขื่อนและน้ำท้ายเขื่อน ซึ่งจะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 25 – 75 ซม.
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจึงขอให้ผู้ว่าฯ 7 จังหวัดภาคกลางเฝ้าระวัง และเตรียมการรับมือกับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มขึ้น โดยให้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ให้รีบดำเนินการโดยด่วน รวมทั้ง บริษัท ห้างร้าน แพร้านอาหาร ที่ประกอบกิจการริมแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ เตรียมนำทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจึงขอให้ผู้ว่าฯ 7 จังหวัดภาคกลางเฝ้าระวัง และเตรียมการรับมือกับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มขึ้น โดยให้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ให้รีบดำเนินการโดยด่วน รวมทั้ง บริษัท ห้างร้าน แพร้านอาหาร ที่ประกอบกิจการริมแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ เตรียมนำทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง