อุบลราชธานี - ชาวอุบลราชธานี รวมตัวทำริบบิ้น สติกเกอร์แจกประชาชนฟรี ขณะที่นักแต่งเพลงหมอลำชื่อดัง “เฉลิมพล มาลาคำ” เปิดใจวันแรกครอบครัวร้องไห้เสียใจ เมื่อได้สติหยิบปากกาแต่งเพลง “แผ่นดินร้องไห้อาลัยพ่อหลวง” เล่าถึงพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่คนไทย และต่างชาติรับรู้มาตลอดรัชสมัยของพระองค์ เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ที่ร้านดีแอนด์เจ.ผ้ายืด บ้านทุ่งบอน ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายอุดร พิลาดี เจ้าของร้าน นำภรรยา ญาติพี่น้องช่วยกันทำริบบิ้นสีดำ และสติกเกอร์ข้อความว่า “ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9 สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์” จำนวน 9,999 ชิ้น แจกฟรีให้แก่ประชาชน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายอุดร กล่าวว่า ตลอดการประกอบธุรกิจรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าเลี้ยงดูครอบครัว ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์เป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่เดือดร้อน เมื่อทรงเสด็จสวรรคต และทราบว่าเสื้อสีดำที่ประชาชนต้องการสวมใส่แสดงความอาลัยต่อพระองค์ทรงมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
จึงชวนคนในครอบครัวมาร่วมกันทำริบบิ้น และสติกเกอร์แจกฟรีให้แก่ผู้ต้องการนำไปใช้ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ โดยริบบิ้น และสติกเกอร์จะนำไปแจกที่ตลาดสดวารินเจริญศรี ในช่วงเย็นทุกวัน จนกว่าของที่ทำขึ้นจะหมด
แต่งเพลงลำล่อง “แผ่นดินร้องไห้อาลัยพ่อหลวง”
ที่จังหวัดอุบลราชธานี ชาวเน็ตต่างแชร์ผลงานเพลงลำล่อง ชื่อ “แผ่นดินร้องไห้อาลัยพ่อหลวง” ขับร้องโดยนักร้องนักแต่งเพลงหมอลำชื่อดัง นายเฉลิมพล มาลาคำ หรือผู้ใหญ่บ้านหำ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านท่าลาด ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งแต่งหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายเฉลิมพล กล่าวว่า หลังสำนักพระราชวังแถลงการณ์การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตนนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์รู้สึกมือเท้าชาทำอะไรไม่ถูก คนในครอบครัวต่างร้องไห้ เพราะทุกคนต่างรับรู้ถึงพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาตลอดรัชสมัย
พอวันต่อมาเริ่มตั้งสติได้ คิดต้องทำอะไรเพื่อพระองค์ จึงได้หยิบปากกาขึ้นมาเขียนบรรยายความรู้สึกถึงพระมหากากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อประชาชนมานาน 70 ปี พระองค์ไม่เคยพัก ไม่เคยละทิ้งประชาชน ตลอดระยะเวลาได้เสด็จพระราชดำเนินไปตามถิ่นทุรกันดาร พสกนิกรจะเห็นไหล่ของพระองค์สะพายกล้อง มือจะถือแผนที่ สายพระเนตรจะมองดูพื้นที่ เพื่อค้นหาความทุกข์ของประชาชน
แล้วพระองค์ทรงนำไปใช้เป็นข้อแนะนำ แก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนของพระองค์ตลอดมา แม้เวลาที่พระองค์พระประชวร ก็ยังมีรับสั่งให้ช่วยเหลือประชาชนในเรื่องต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อปวงชนชาวไทย ตนคิดว่าอีก 100 ชาติ จะได้พบพระมหาราชเช่นนี้อีกหรือไม่
นายเฉลิมพล กล่าวถึงลำล่องที่แต่งขึ้นมาในครั้งนี้ใช้เวลาในการเขียน 1 วัน และเกลาเนื้ออีก 1 วัน นำไปอัดในห้องบันทึกเสียงใกล้บ้าน มีเสียงแคนเป็นดนตรีเดินคำร้อง เป็นทำนองหมอลำแบบอีสาน ทำนองในการร้องไม่มีบทที่ตายตัว หมอลำท่านอื่นสามารถนำไปร้องในแบบของตนเองได้
ส่วนเนื้อหาทั้งหมดกลั่นออกมาจากใจที่จงรักภักดี และเทิดทูนพระองค์ท่าน โดยนำความรู้สึกตั้งแต่จำความได้มาเขียนเป็นเนื้อร้องความยาวของเพลงประมาณ 5 นาที ซึ่งบรรยายถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงทำให้แก่ปวงชนชาวไทยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยตลอดมา
ลำล่อง “แผ่นดินร้องไห้อาลัยพ่อหลวง” จึงเป็นเพลงลำที่ตนกลั่นออกมาจากใจ ตั้งใจทำเพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ว่าจะนานเท่าใดจะจดจำพระราชดำริของพระองค์ท่าน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมนำมาส่งเสริมให้ลูกบ้านของตนได้ดำเนินตามรอยของพระองค์ท่านตลอดไป
