รพ.อภัยภูเบศร ยก “ฟ้าทะลายโจร” สมุนไพรทางเลือกป้องกันเชื้ออีโบลา ระบุสามารถจับไกลโคโปรตีนของเชื้อไวรัสได้ เหมือนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เชื่ออ่อนกำลังลง เป็นความหวังในการป้องกัน เร่งจับมือ “ม.มหิดล-เกษตรฯ” ศึกษา
ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ขณะนี้หลายคนกังวลเรื่องโรคอีโบลา เนื่องจากยังไม่มียารักษา แต่ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง เพราะมีสมุนไพรชนิดหนึ่งช่วยในแง่การป้องกันได้ คือ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีคุณสมบัติจับไกลโคโปรตีน (Glycoprotien) ได้ โดยการวิจัยของอินเดียพบว่า ไวรัสอีโบลา และไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีโครงสร้างเป็นไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราทราบดีว่าฟ้าทะลายโจรมีคุณสมบัติจับไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ทำให้เชื้อไวรัสอ่อนกำลังลง นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และลดการอักเสบ จึงถือเป็นความหวังในการป้องกันไวรัสได้
ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการหารือกับ พญ.อรุณี ธิติธัญญานนท์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ผศ.จักร แสงมา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการศึกษาโครงสร้างดังกล่าว ว่า สามารถจับเชื้อไวรัสต่างๆ ได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้จะยืนยันไม่ได้ว่า ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคไวรัสอีโบลา แต่ก็มีประโยชน์ในแง่เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดอาการอักเสบต่างๆ ซึ่งหากมีการปลูกไว้ตามบ้านเรือนก็ถือเป็นเรื่องดี ดีกว่าไม่มีเลย
ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ฟ้าทะลายโจรไม่ควรกินต่อเนื่องนานเกิน 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีฤทธิ์เย็น อาจทำให้เกิดอาการมือเท้าชาได้ นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบลำไส้ โดยตัวยาจะไปทำลายแบคทีเรียชนิดดีของลำไส้ อาจทำให้เกิดอาการย่อยยาก
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ขณะนี้หลายคนกังวลเรื่องโรคอีโบลา เนื่องจากยังไม่มียารักษา แต่ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง เพราะมีสมุนไพรชนิดหนึ่งช่วยในแง่การป้องกันได้ คือ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีคุณสมบัติจับไกลโคโปรตีน (Glycoprotien) ได้ โดยการวิจัยของอินเดียพบว่า ไวรัสอีโบลา และไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีโครงสร้างเป็นไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราทราบดีว่าฟ้าทะลายโจรมีคุณสมบัติจับไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ทำให้เชื้อไวรัสอ่อนกำลังลง นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และลดการอักเสบ จึงถือเป็นความหวังในการป้องกันไวรัสได้
ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการหารือกับ พญ.อรุณี ธิติธัญญานนท์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ผศ.จักร แสงมา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการศึกษาโครงสร้างดังกล่าว ว่า สามารถจับเชื้อไวรัสต่างๆ ได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้จะยืนยันไม่ได้ว่า ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคไวรัสอีโบลา แต่ก็มีประโยชน์ในแง่เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดอาการอักเสบต่างๆ ซึ่งหากมีการปลูกไว้ตามบ้านเรือนก็ถือเป็นเรื่องดี ดีกว่าไม่มีเลย
ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ฟ้าทะลายโจรไม่ควรกินต่อเนื่องนานเกิน 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีฤทธิ์เย็น อาจทำให้เกิดอาการมือเท้าชาได้ นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบลำไส้ โดยตัวยาจะไปทำลายแบคทีเรียชนิดดีของลำไส้ อาจทำให้เกิดอาการย่อยยาก
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่