กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ เมืองน้ำดำนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมแปรอักษร รูปหมายเลข ๙ รูปหัวใจ รูปริบบิ้น และแปรอักษรรูปภาษาอังกฤษ KALASIN ซึ่งเป็นชื่อจังหวัด และคำว่าทำดีเพื่อพ่อหลวง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 ต.ค.) นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายพลเรือน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ทหาร ตำรวจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกันแปรอักษรเป็นรูปหมายเลข ๙ รูปหัวใจ รูปริบบิ้น และแปรอักษรรูปภาษาอังกฤษ KALASIN ชื่อจังหวัด และคำว่าทำดีเพื่อพ่อหลวง บริเวณหน้าสนามศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อร่วมกันถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้นำข้าราชการและประชาชนกล่าวรำลึกในพระหากรุณาธิคุณและลงนามแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณโถงศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำกล่าวรำลึกในพระหากรุณาธิคุณว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ซึ่งประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างรู้สึกทุกข์โศกและเสียใจเป็นล้นพ้นต่อการเสด็จสวรรคตในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นวันที่ความเศร้าเข้าปกคลุมในจิตใจของปวงประชาชนชาวไทยทุกคน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงอุทิศเวลากำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราษฎร์ และเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติตลอดมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการที่ได้นำพสกนิกรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และยังความผาสุกมาสู่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
สำหรับพระราชกรณียกิจที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ อันเป็นที่ซาบซึ้งในใจไม่รู้ลืมประการหนึ่ง คือ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์ แต่กลับบินวนอยู่เป็นเวลานาน ครั้นเมื่อลงจอด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จตรงไปที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มารับเสด็จ และมีรับสั่งว่า “เราพบสถานที่สร้างอ่างเก็บน้ำแล้ว เดี๋ยวเราจะไปดูกัน”
จากนั้นทรงนำคณะเสด็จพระราชดำเนินไปบนถนนลูกรังขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ รถพระที่นั่งแกว่งไปแกว่งมา จึงทรงเรียกชื่อถนนแห่งนั้นว่า “ถนนดิสโก้” ระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินได้ทอดพระเนตรเห็นข้าวของราษฎรบ้านกุดตอแก่นที่มีรวงข้าวแต่ไม่มีเมล็ด หรือรวงหนึ่งมีสองสามเม็ด เนื่องจากฝนแล้งทำให้ขาดน้ำ ต้นข้าวโตขึ้นได้เพราะอาศัยน้ำค้าง เมื่อพระองค์ทรงเห็นสภาพความยากลำบากของราษฎร และขาดแคลนน้ำเพราะขาดระบบชลประทาน จึงให้จัดทำโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบนเพื่อช่วยให้ราษฎรในบ้านดงหมู ตำบลคุ้มเก่า และบ้านนาวี ตำบลสงเปือย อำเภอเขาวง รอดพ้นจากความแห้งแล้ง และในเวลาต่อมาทรงมีรับสั่งให้จัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนบ้านแดนสามัคคี อันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ที่บ้านแดนสามัคคี ตำบลคุ้มเก่า อำเภอเขาวง
ทั้งนี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ข้าราชการและประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ขอตั้งจิตปฏิญาณจะน้อมนำแนวทางตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และพระราชดำริที่เคยพระราชทานไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติงาน และตั้งใจมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนสืบไป