“เอ ไชยา” เผยเคยร้องเพลงล้นเกล้าเผ่าไทยในวันพ่อแห่งชาติ แต่ในวันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว สิ้นในหลวงเหมือนสูญเสียพลังยิ่งใหญ่ บอกลมหายใจที่เหลืออยู่ จะขอเป็นศิลปินที่ดี และขอกตัญญูต่อแผ่นดิน
บรรยากาศในช่วงค่ำมีประชาชนเดินทางมาสักการะถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพระเอกลิเกเงินล้าน “เอ ไชยา มิตรชัย” หรือ “เสมา สมบูรณ์” ที่มาร่วมสักการะพระบรมศพ โดยเจ้าตัวเปิดใจว่าตนเพิ่งไปร้องเพลง “ล้นเกล้าเผ่าไทย” ซึ่งเป็นเพลงที่เคยร้องในวันพ่อแห่งชาติ แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
“วันนี้ผมมาเพิ่งจะจากอ่างทองครับ เพิ่งจะไปร้องเพลงล้นเกล้าเผ่าไทย ที่ทีวี ธันเดอร์มาครับ ซึ่งเป็นการรวมแต่ละค่าย แต่ละแขนง ทุกวิชาชีพ มาร่วมถวายความอาลัยแก่พ่อหลวงของเรา และพอร้องเพลงเสร็จผมก็เลยตั้งใจมาที่นี่ต่อ แต่เมื่อกี้เดินไปยังไม่ถึงที่ประตูลงนามเลยครับ เพราะติดขบวนเสด็จจึงทำให้ไม่ได้เข้าไป เลยขอเลยน้อมสักการะท่านตรงพระบรมฉายาลักษณ์ครับ”
“ตอนท่านประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จัดงานการดนตรีตรงนั้น เพื่อร้องเพลงถวายพระองค์ ผมก็เลยมีโอกาสได้ร่วมร้องเพลงในครั้งนั้นครับ แต่ถ้าโดยปกติแล้วช่วงที่พระองค์ท่านประชวรอยู่ที่โรงพยาบาล ผมก็จะไปเล่นลิเกอยู่ที่วัดโบสถ์น้อย ตรงสะพานอรุณอัมรินทร์ ถ้ามีการแสดงลิเกตอนกลางคืนยังไงในโรงพยาบาลก็จะได้ยินแน่นอน”
“ซึ่งพ่อผมจะบอกอยู่เสมอว่าให้ผมตั้งใจเล่น ถึงแม้ท่านจะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็แล้วแต่ แต่ในเมื่อท่านประชวรอยู่ ก็ให้เรานึกเสมอว่าเรากำลังแสดงลิเกถวายท่าน”
ความรักต่อพระองค์หาที่สุดมิได้
“ความรักต่อพระองค์มันที่สุดเลยครับ ผมจำความได้ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ภาพทีวียังเป็นสีขาวดำอยู่เลย จะเห็นข่าวพระราชกรณียกิจอยู่ทุกวันและจะจำได้ติดตา ซึ่งเราเป็นเด็กเราก็ไม่รู้ว่านั่นคือพระราชกรณียกิจแต่ผู้ใหญ่จะชอบเปิดดู และผมก็เห็นว่าที่บ้านจะเปิดอยู่ทุกวันจนเวลาสิบ ๆ ปี ผมก็ยังเห็นพระองค์ท่านทรงงาน อยู่ว่าราชการตลอดเวลา ซึ่งการที่ท่านทรงงานทุกคืนทุกวันแบบนี้หากเป็นร่างกายคนเราปกติผมคิดว่าคงไม่ไหวแน่นอน แต่ผมก็ยังนำภาพตรงนั้นมาประมวล และพอทราบข่าวว่าท่านสวรรคตก็ยังคิดเลยว่า หมดแล้วแผ่นดินไทยเรา”
ใจสลายได้ยินแถลงการณ์เสด็จสวรรคต เหมือนดวงใจสูญเสียพลังยิ่งใหญ่
“ที่สุดเลยครับ (เสียงสั่น) ผมก็เหมือนกับคนไทยทุกคนครับ เหมือนดวงใจทุกดวงที่สูญเสียพลังยิ่งใหญ่ ผมเคยขึ้นเวทีที่ท้องสนามหลวงในวันพ่อแห่งชาติ เคยร้องเพลงล้นเกล้าเผ่าไทย แต่ความรู้สึกตอนนั้นกับวันนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีภาพนั้นให้เราได้เห็นอีกแล้วครับ แต่ผมเชื่อว่าท่านยังอยู่ในใจของผมเสมอ และเชื่อว่ายังอยู่ในใจคนไทยตราบนานเท่านาน”
“ผมเคยได้ยินพระองค์ท่านตรัสไว้ว่า สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการทำงาน ผมรู้สึกว่าจะเป็นโอวาทในวันพ่อสักปีหนึ่ง ท่านบอกให้เรารู้สึกสนุกกับงานที่เราทำ และเราก็จะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งคำสอนพวกนี้ยังก้องอยู่ในหัวผม และผมก็สอนน้อง ๆ ทุกคนที่อยู่ในคณะด้วย”
“ผมอยากให้ทุกคนเข้มแข็งนะครับ มีพระราชดำรัสที่บอกว่าวันที่ท่านสูญเสียสมเด็จย่า แม่เคยบอกว่าไม่อยากให้ร้องไห้ แสดงว่า สมเด็จท่านสอนให้พระองค์ท่านเข้มแข็ง ก็เหมือนกับพวกเราครับ และที่ผมปลาบปลื้มใจอีกอย่างก็คือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ท่านพยุงกันและประคองกัน ซึ่งเราเห็นและเราก็ต้องเข้มแข็ง ท่านฝากคุณงามความดีไว้กับเราเยอะมากมาย อยากให้ทุกคนเอาเป็นแบบอย่าง อยากให้ทุกคนมีกำลังใจ และอยากให้ทุกคนร่วมกันทำความดี เพราะในวันที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทุกคนต่างก็บอกว่าอยากทำดีเพื่อพ่อ”
“ซึ่งวันนี้ผมได้เห็นน้ำใจของทุก ๆ คนที่มาในท้องสนามหลวง มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ตั้งใจจะทำความดีเพื่อพ่อ ตรงนี้มันเป็นภาพที่ผมเห็นแล้วยังชื่นใจเลยครับ ถึงแม้เราจะไม่มีพระองค์อยู่ แต่ท่านก็ยังสถิตอยู่ในดวงใจของเราทุก ๆ คนด้วยคุณงามความดี รวมถึงพระบรมราโชวาทและคำสอนต่าง ๆ ที่ท่านได้สอนเอาไว้ ผมอยากให้ทุกคนยึดนำเป็นแบบแผนและนำไปปฏิบัติ ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ขอปฏิญาณตนว่า ลมหายใจที่เหลืออยู่ จะขอเป็นศิลปินที่ดี และขอกตัญญูต่อแผ่นดินนี้ ผมอยากทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุก ๆ คนครับ”