ตาก - ผบ.มทบ.310 นำแพทย์ทหาร-พยาบาล-นักจิตวิทยาโรงพยาบาลค่ายฯ เดินเท้าดูแลคนสูงอายุ-ผู้ป่วยติดเตียงพื้นที่ธุรกันดารทั่วเมืองตาก ปลอบโยนให้หายซึมเศร้าหลังรู้ข่าว “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” สวรรคต คุณยายอายุเกือบร้อยปี ตาบอดทั้งสองข้างหลั่งน้ำตาอาลัย บอกแม้มองไม่เห็นมา 30 ปี แต่ “พระพักตร์พ่อหลวง” ยังติดตรึงในใจเสมอ
พล.ต.ณรัช สิงห์ปภาภร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 310 พร้อมด้วยแพทย์ทหาร โรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ ได้เดินเท้าไปเยี่ยมเยียนบริการประชาชนในพื้นที่บ้านเกาะตาเถียร ต.ไม้งาม อ.เมืองตาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลชุมชนเมือง มีประชาชนผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมาก
พล.ต.ณรัชเปิดเผยว่า จากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการให้แก่พสกนิกรในพื้นที่จังหวัดตาก อาจทำให้กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมแสดงความไว้อาลัยมีอาการเศร้าซึมซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
ดังนั้น ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 3 จึงได้มอบหมายให้กำลังพลนำหน่วยแพทย์ทหาร เพื่อปฏิบัติการ “หมอทหารเดินเท้าปลอบโยน ปรับทุกข์ ผูกมิตร พิชิตโรค” โดยจะมีคณะแพทย์ พยาบาล และนักจิตวิทยาของโรงพยาบาลค่ายวิชรปราการ ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเดินเท้าลงพื้นที่ทุรกันดารทั้ง 9 อำเภอ เพื่อพบปะพูดคุย ปลอบโยน และทำการตรวจรักษาผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีผู้ดูแลซึ่งมีอาการซึมเศร้าอาลัยจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างความอบอุ่น ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จะได้สืบสานพระราชปณิธาน และจะช่วยกันบอกเล่าพระราชกรณียกิจนานัปการของพระองค์ท่านให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ทราบ และร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านั้น
ด้านคุณยายทองดี สุกใส อายุ 96 ปี ผู้สูงอายุมีความพิการตาบอดด้วยโรคต้อหินมานานกว่า 30 ปี และอาศัยอยู่กับลูกสาว คือ นางบุญมี สุกใส อายุ 73 ปี บอกว่า อาศัยเงินเบี้ยยังชีพคนพิการและผู้สูงอายุ เงินที่หลวง (พ่อหลวง) ได้มอบให้ตนเองและครอบครัวได้มีกินเลี้ยงปากท้องมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระองค์ท่านมาโดยตลอด
คุณยายทองดีกล่าวด้วยน้ำตาที่หลั่งออกมาด้วยความอาลัยอีกว่า ข่าวการสวรรคตของ “พ่อ” เป็นข่าวที่ทำให้ตนเสียใจที่สุดในชีวิต แม้ตนจะตาบอดทั้งสองข้าง มองไม่เห็นมานานกว่า 30 ปี แต่พระพักตร์และความสง่างามของพระองค์ยังตราตรึงอยู่ในความรู้สึกมิอาจลืมเลือนไปจากความทรงจำจนถึงทุกวันนี้