xs
xsm
sm
md
lg

กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบ “เสือโคร่ง” สวนเสือศรีราชาอย่างละเอียดตามอนุสัญญา CITES

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กรมอุทยานฯ เขาตรวจสอบสวนเสือ ศรีราชา
ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบ “เสือโคร่ง” ในสวนเสือศรีราชา เพื่อทำประวัติข้อมูลอย่างละเอียด ตามอนุสัญญา CITES หวั่นมีลักลอบค้าสัตว์ป่า สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ทันที



วันนี้ (6 ต.ค.) นายพิบูลย์ ไชยคุณ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2(ศรีราชา) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ เข้าดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลเสือโคร่ง ในสวนเสือศรีราชา เพื่อเป็นไปตามข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ตามนโยบายกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

สำหรับการตรวจสอบในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องวางยาสลบเสือโคร่งทุกตัวเพื่อตรวจสอบเครื่องหมายประจำตัวของเสือโคร่ง (ไมโครชิป) ที่ดำเนินการฝังไว้ตั้งแต่ปี 2555 หรือไม่ เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสอบพันธุกรรม บันทึกภาพถ่ายเสือโคร่งทุกตัว และตรวจเช็กจำนวนเสือโคร่งเป็นไปตามที่แจ้งไว้หรือไม่

นายพิบูลย์ กล่าวต่อว่า การเก็บข้อมูลในครั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และควบคุมประชากรเสือ ว่า เป็นไปตามที่แจ้งไว้หรือไม่ มีการสูญหาย หรือลักลอบค้าสัตว์ป่าหรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นก็สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ทันท่วงที เพราะที่ผ่านมา เมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาได้เลย จึงต้องจัดทำฐานข้อมูลให้ชัดเจน และละเอียดเพิ่มมากขึ้น

โดยสวนเสือศรีราชา เป็นแหล่งที่มีเสือโคร่งจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งสิ้น 323 ตัว เป็นตัวผู้ 151 ตัว เพศเมีย 172 ตัว และอีก 20 ตัว ที่ยังไม่ได้แจ้งเข้าบัญชีเพราะอายุไม่ถึง 60 วัน เนื่องจากอัตรารอดยังไม่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ได้รายงานเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่รับทราบเรียบร้อยแล้ว

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบไปแล้ว 129 ตัว ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 40% และยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 194 ตัว โดยใช้ระยะการดำเนินการครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3-13 ต.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะดำเนินการในสวนสัตว์อื่นๆ ต่อไป

ด้าน นายดุศิษย์ แก้วบุดศา ผู้จัดการสวนเสือศรีราชา กล่าวว่า ทางสวนเสือพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมา สวนเสือศรีราชา ได้ทำประวัติข้อมูลของเสือโคร่งไว้อย่างละเอียดมาโดยตลอด แต่ในครั้งนี้ทางกรมอุทยานฯ ต้องการเพิ่มข้อมูลความละเอียดมากยิ่งขึ้น เช่น เจาะเลือดเสือเพื่อตรวจสอบพันธุกรรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหากมีการลักลอบค้าสัตว์ป่า และถูกจับกุมได้ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ทันท่วงทีว่ามาจากแหล่งใด
มีการวางยาสลบ เสือโคร่งก่อนเข้าเก็บรายละเอียด
เสือทุกตัวถูกตรวจสอบทั้งหมด
หลังจากวางยาสลบแล้ว สัตวแพทย์จะเข้าไปเก็บตัวอย่างเลือด
กำลังโหลดความคิดเห็น