ชัยนาท - ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังในชัยนาท สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยครูฝ่ายปกครอง หลังนักเรียนหญิงชั้น ม.5 โพสต์รูปภาพรอยฟกช้ำบนหน้าอกลงในเฟซบุ๊ก ระบุถูกครูฝ่ายปกครองทำร้ายร่างกาย ด้วยการตบกกหู และต่อยที่หน้าอกหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (3 ต.ค.) จากกรณีที่มีนักเรียนหญิงโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ได้โพสต์รูปภาพรอยฟกช้ำบนหน้าอกของตนเองในเฟซบุ๊ก Eve Nirucha และระบุว่า ตนเองถูกครูฝ่ายปกครองทำร้ายร่างกายด้วยการตบกกหู และต่อยที่หน้าอกหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ และได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีต่อครูคนดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามเรื่องดังกล่าว ทราบว่า นักเรียนหญิงคนดังกล่าวเรียนอยู่ชั้น ม.5 อายุ 16 ปี เธอกล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.30 น.ตนเองเดินทางมาโรงเรียนเพื่อจะมาสอบ แต่อาจารย์ผู้ชายที่เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองไม่ให้ตน และเพื่อนเข้าโรงเรียน ต้องให้อาจารย์รายวิชาที่ตนจะสอบลงมารับตัว
เมื่ออาจารย์รายวิชามาถึงตนก็เข้าไปคุยด้วย แต่มีเพื่อนนักเรียนที่มาด้วยกันบอกว่า จะขอส่งงานด้วย ทำให้อาจารย์ฝ่ายปกครองต่อว่าตน ถามว่าตนจะมาสอบ หรือจะมาส่งงาน ตนจึงตอบไปแบบตะคอกว่าจะมาสอบ อาจารย์ฝ่ายปกครองก็เดินตรงเข้ามาตบเข้าที่กกหูซ้าย ตนก็ยกมือขึ้นกันใบหน้าไว้ อาจารย์ก็กระชากคอเสื้อ และชกเข้ามาที่หน้าอกหลายครั้ง ตนจึงต่อสู้ป้องกันตัว และก็เกิดการชุลมุนขึ้นประมาณ 1 นาที จากนั้นก็แยกกัน ตนก็เข้าโรงเรียนไปทำการสอบ เสร็จแล้วก็ให้บิดาพาเข้าแจ้งความต่อตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่ออาจารย์ และได้แจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบเรื่อง ตนยืนยันว่ายังเคารพ และนับถืออาจารย์คนดังกล่าวเหมือนเดิม ยอมรับว่าตนเองก็ผิด แต่อาจารย์ก็ทำเกินกว่าเหตุ
ด้านอาจารย์ฝ่ายปกครองคู่กรณีได้เดินทางไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทำร้ายเด็กนักเรียนก่อน เพียงแค่เดินเข้าไปยกมือเพื่อจะปรามเพราะเด็กพูดจาไม่ให้เกียรติครู แต่เด็กกลับสวนเข้ามาทำร้ายตนก่อน แล้วก็มีการยื้อยุดกันขึ้นทำให้เด็กมีรอยเขียวช้ำ ยืนยันว่าตนไม่ได้ตบ หรือต่อยเด็กแต่อย่างใด ยอมรับว่าตอนนั้นก็มีอารมณ์เหมือนกัน
ขณะที่ นายถวัลย์ ตันธีระพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า เมื่อทราบเรื่องได้สอบถามข้อเท็จจริงกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง และเด็กนักเรียน ซึ่งตอบไม่ตรงกัน ต่างอ้างว่าอีกฝ่ายลงมือทำร้ายก่อน แต่จากการสอบถามพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มีความเป็นไปได้ว่า อาจารย์อาจจะลงมือทำร้ายนักเรียน จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์จึงจะทราบผล เพราะต้องเรียกครูฝ่ายปกครองมาสอบ และเรียกเด็กนักเรียนมาสอบ ซึ่งต้องมีผู้ปกครองมาด้วย และหากผลสอบออกมาว่าครูมีความผิดไม่ร้ายแรงก็เป็นหน้าที่ของตนที่จะดำเนินการ แต่หากผิดวินัยร้ายแรงก็ต้องทำเรื่องเสนอหน่วยเหนือต่อไป
ด้านนักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท ได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงต่อเด็กนักเรียน เพื่อให้การดูแล และพิทักษ์คุ้มครองสิทธิตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546