ท้องถิ่นกาฬสินธุ์ตั้งกรรมการสอบทุจริตซ่อมถนนลูกรัง อบต.สามัคคี

กาฬสินธุ์ - ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งคณะกรรมการสอบโครงการซ่อมแซมถนนลูกรัง อบต.สามัคคี ระบุหากพบกระทำผิดและมีเอี่ยวทุจริตต้องถูกดำเนินการทางวินัย และดำเนินการตามกฎหมายทันที



จากกรณีภาคประชาคมร้องสำนักงาน ป.ป.ช. สตง. และ ป.ป.ท.พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยอ้างว่าผู้บริหารและปลัด อบต.สามัคคี ร่วมกันทุจริตโครงการซ่อมแซมถนนลูกรังและยังมีโครงการประปาตั้งแต่ปี 2552-2559 งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ต่อมา ป.ป.ท. และ สตง.ตรวจพบว่ามีการปลอมลายเซ็นผู้ใหญ่บ้านในการตั้งโครงการและรวมถึงการตั้งฎีกาเบิกทับซ้อน ส่วนสภา อบต.สามัคคีมีมติทำหนังสือส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ย้ายปลัด อบต.สามัคคีออกนอกพื้นที่

ล่าสุดวันนี้ (29 ก.ย.) นางสาวณัฐชยา ช่างแกะ ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวได้มีประชาชนชาว ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ได้ยื่นเรื่องกับอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้ตรวจสอบพฤติกรรมปลัด อบต.สามัคคี และให้ตรวจสอบโครงการซ่อมแซมถนนลูกรัง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559 เนื่องจากเชื่อว่าจะมีการทุจริต ซึ่งทางอธิบดีจึงได้มอบหมายให้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

ดังนั้นจึงได้ประสานยังอำเภอร่องคำ และท้องถิ่นอำเภอร่องคำ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการสอบภายในวันที่ 28 กันยายน 2559 ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางคณะกรรมการในส่วนของอำเภอร่องคำได้ดำเนินการสอบพยานแวดล้อมไปแล้ว 49 ปาก ซึ่งยังเหลือการสอบปากคำ จ่าเอก สมพงษ์ สกุลรัตน์ ปลัด อบต.สามัคคี ที่ติดราชการไปอบรมที่กรุงเทพมหานครอยู่ จึงยังไม่ได้รายงานผลการสอบเข้ามา

ทั้งนี้ หากผลการสอบข้อเท็จจริงของทางอำเภอล่าช้าและยังไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ทางท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ก็จะตั้งคณะกรรการขึ้นมาตรวจสอบอีก 1 ชุด โดยจะทำการตรวจสอบปัญหาการร้องเรียนในภาพรวม ทั้งการดำเนินงานโครงการต่างๆ และพฤติกรรมตัวบุคคล ซึ่งคาดว่าอย่างช้าน่าจะลงพื้นที่ได้ภายในสัปดาห์หน้า

นางสาวณัฐชยากล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานทั้ง ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ สตง.กาฬสินธุ์ และ ป.ป.ท.ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาโครงการซ่อมแซมถนนลูกรังของ อบต.สามัคคีตั้งแต่ปี 2552-ปี 2559 และโครงการก่อสร้างประปาผิวดินบ้านโนนเสียว ม.6 ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดย อบต.สามัคคี งบประมาณ 1,796,500 บาท แต่กลับปล่อยให้ทิ้งร้างไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้นั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่และตามขั้นตอนของการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ยินดีและพร้อมให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ เต็มที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน

ทั้งนี้ เพราะหากผลการตรวจสอบจากหน่วยงานทุกฝ่ายสรุปออกมาว่า หากมีการกระทำผิดหรือทุจริตจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ และผู้บริหาร อบต.สามัคคีก็จะต้องถูกดำเนินการทางวินัย และดำเนินการตามกฎหมายทันที

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีสภา อบต.สามัคคีได้มีการลงมติทำหนังสือเสนอให้ย้ายปลัด อบต.ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงนั้น เรื่องดังกล่าวก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเช่นกัน เพราะจะต้องทำตามขั้นตอนและต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย

ด้านนายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางอำเภอร่องคำในฐานะที่รับผิดชอบดูแล อบต.สามัคคีได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งปัญหาโครงการซ่อมแซมถนนลูกรัง และปัญหาร้องเรียนพฤติกรรมผู้บริหาร และสอบปากคำพยานแวดล้อมไปทั้งหมดแล้ว แต่ยังเหลือผู้ที่ถูกร้องคือ จ่าเอก สมพงษ์ สกุลรัตน์ ปลัด อบต.สามัคคี ซึ่งเพิ่งกลับมาจากอบรมที่กรุงเทพมหานคร

โดยทางคณะกรรมการจะเรียกตัวมาสอบปากคำในเร็วๆ นี้ และสรุปผลการสอบปากคำส่งให้ทางจังหวัดและท้องถิ่นจังหวัด ส่วนกรณีทางสภา อบต.สามัคคีได้ส่งหนังสือมายังอำเภอเพื่อให้ย้ายปลัด อบต.สามัคคีออกนอกพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้รับหนังสือแล้ว ซึ่งทางอำเภอจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน เนื่องจากจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะต้องเสนอไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อพิจารณาจะดำเนินการย้ายได้หรือไม่