เชียงราย - โยธาธิการและผังเมืองเชียงรายล้มโครงการสร้างอาคารร้านค้าชุมชนริมน้ำโขงชายแดนเชียงใหม่ รวมถึงแผนสร้างทางจักรยาน-ทางเท้ากำแพงเมืองเก่า หลังกลุ่มหนุน-กลุ่มต้านแย้งกันหนัก
วันนี้ (20 ก.ย.) นายกฤษณ์ นิสสัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเชียงแสน, นายยรรยง พลสันติกุล โยธาธิการและผังเมือง จ.เชียงราย ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองเชียงแสนระยะที่ 2 ที่ห้องประชุมเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังกลุ่มชาวบ้านบางส่วนเรียกร้องให้ยกเลิกการก่อสร้างอาคารร้านค้าชุมชนบริเวณริมถนนเลียบแม่น้ำโขง พื้นที่ ม.3 ต.เวียงเชียงแสน เมื่อ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
ที่ประชุมมีการให้ข้อมูลว่า โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณปี 59 จากกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 87,838,000 บาท แยกเป็นโครงการย่อยอีกหลายโครงการ แต่ที่มีการคัดค้านคือ อาคารร้านค้าชุมชนจำนวน 4 หลัง ที่จะสร้างบริเวณสามแยกเยื้องหน้า สภ.เชียงแสน-หน้าวัดปงสนุก ความยาวประมาณ 70 เมตร ด้วยงบประมาณ 3,455,928 ล้านบาท และงานปรับปรุงทางจักรยาน-ทางเท้า บริเวณกำแพงเมืองเก่า งบประมาณ 18,632,053 บาท ฯลฯ รวมระยะเวลาโครงการทั้งสิ้น 700 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2559-8 มี.ค. 2561
หลังจากนั้นที่ประชุมได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมเวที ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่เคยไปยื่นหนังสือคัดค้าน, กลุ่มที่ค้าขายภายในร้านค้าแห่งเดิมที่สนับสนุนโครงการ และประชาชนทั่วไปที่อยากรับทราบข้อมูล ร่วมแสดงความคิดเห็น ปรากฏว่ามีทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านจนเกือบมีการกระทบกระทั่งกัน ทำให้ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือแม้แต่นายกฤษณ์ ต้องเข้าไปห้ามปราม
นางเกศสุดา สังขกร รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และนักธุรกิจ อ.เชียงแสน กล่าวว่า พวกตนไม่ได้คัดค้านโครงการหรือให้ยกเลิกการก่อสร้างอาคาร แต่อยากให้ปรับรูปแบบอาคารไม่ให้บดบังทัศนียภาพของแม่น้ำโขง ส่วนระเบียงยื่นไปในแม่น้ำโขง หรืออื่นๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมนั้นสนับสนุนอย่างเต็มที่ ส่วนร้านค้าที่เคยค้าขายอยู่ในตลาดเดิมก็ไม่ได้สนับสนุนให้รื้อ ขึ้นอยู่กับเทศบาลฯ จะบริหารจัดการ หรือจัดระเบียบต่อไป
ขณะที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายภายในตลาดเดิมที่อยู่บนทางเท้าบริเวณที่จะก่อสร้าง ให้ความเห็นว่าต้องการให้เชียงแสนเจริญรุ่งเรือง ซึ่งพื้นที่ดูวิวแม่น้ำโขงสามารถดูได้ตั้งแต่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน-หน้าวัดผ้าขาวป้าน
ส่วนพื้นที่หน้าวัดปงสนุกขอให้ใช้เป็นเขตเศรษฐกิจเพื่อการค้าขาย ซึ่งโครงการก่อสร้างอาคารดังกล่าวถือว่าจะพัฒนาให้เป็นแหล่งค้าขายได้ดี รวมทั้งยาวแค่ 70 เมตรเท่านั้น และหากไม่มีโครงการนี้ หรือรื้อร้านค้าเดิมออกไปหมด กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าจะต้องลำบากแน่นอน รวมทั้งไม่เห็นด้วยที่กลุ่มผู้คัดค้านโครงการพากันไปร้องเรียนถึงจังหวัดฯ โดยไม่ปรึกษาหารือกันในพื้นที่เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่คัดค้านได้แย้งว่า สาเหตุที่ต้องไปยื่นเรื่องถึงจังหวัดฯ เพราะไม่มีการแจ้งรายละเอียดโครงการให้คนในพื้นที่รับทราบมาก่อน โครงการนี้เพิ่งเป็นที่รับทราบกันในการประชุมส่วนราชการ อ.เชียงแสน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากมีการจัดซื้อจัดจ้างเตรียมก่อสร้างโครงการไปแล้ว
ขณะที่หลายคนแสดงความเห็นไปต่างๆ นานาโดยไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ทำให้ทางโยธาธิการและผังเมืองขอยุติการประชุมฯ พร้อมแจ้งว่าจะยังคงดำเนินโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองเชียงแสนระยะที่ 2 ในภาพรวมต่อไป แต่จะยุติเฉพาะโครงการปรับปรุงทางจักรยาน และทางเท้า เพราะส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย รวมถึงโครงการอาคารร้านค้าชุมชนเพราะไม่ได้ข้อยุติ
นายยรรยงกล่าวว่า เมื่อไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับอาคารริมแม่น้ำโขงก็ต้องให้ทางเทศบาล ต.เวียงเชียงแสนจัดประชุมกับประชาชนเพื่อให้ได้ข้อยุติเสียก่อน ส่วนงบประมาณที่เหลือก็ให้ทางเทศบาลฯ นำไปพิจารณาว่าจะนำไปดำเนินการอย่างไร โดยทางตนจะนำเสนอไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองให้รับทราบต่อไป
“ช่วงนี้ก็จะยุติโครงการย่อยกรณีสร้างอาคารริมโขงไปก่อน เมื่อได้ข้อยุติจึงค่อยหางบประมาณระยะที่ 3 มาสนับสนุนต่อไป ส่วนกรณีทางรถจักรยานนั้นเนื่องจากผ่านเขตเมืองประวัติศาสตร์ คงต้องปรึกษากับกรมศิลปากรด้วย และจะประเมินใหม่ อีก 2 ปีจึงดำเนินการอีกครั้ง”
ด้านนายกฤษณ์กล่าวว่า จะมีการจัดประชุมส่วนราชการต้นเดือนตุลาคม 59 นี้ ซึ่งตนจะได้นำเสนอเรื่องโครงการนี้เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อให้ทางอำเภอฯ ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน หาข้อยุติเรื่องรูปแบบโครงการบริเวณที่เป็นปัญหานี้ต่อไป