“สัตหีบ” ปลูกป่าเทือกเขาบายศรี เฉลิมพระเกียรติพระคู่ฟ้าคู่แผ่นดิน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - “สัตหีบ” ปลูกป่าพลิกฟื้นป่าเทือกเขาบายศรี จำนวน 6,000 ต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระคู่ฟ้าคู่แผ่นดิน

วันนี้ (26 ส.ค.) พล.ร.ท.วิพากษ์ น้อยจินดา ผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ณ เทือกเขาบายศรี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ในการนี้ นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอสัตหีบ ได้กล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมนำผู้แทนทุกภาคส่วน เช่น กองทัพเรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา พ่อค้าแม้ค้า และประชาชนกว่า 2,000 คน แสดงพลังความสามัคคี พร้อมใจกันร่วมปลูกพันธุ์กล้าไม้

ประกอบด้วย ยางนา ตะเคียนทอง กันเกลา มะค่าโมง ตะแบก อินทนิล พะยูง พะยอม ประดู่ป่า ลำดวน ตะขบ หว้า มะฮอกกานี และนนทรี รวม 6,000 ต้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้จาก สถานีเพราะชำกล้าไม้จังหวัดชลบุรี พร้อมกันนี้ ได้มีการใช้เครื่องบินเล็ก จำนวน 3 ลำ มี ว่าที่ พ.ต.ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ เป็นนักบิน ร่วมทำการโปรยเมล็ดพันธุ์กล้าไม้ ไปโดยรอบบริเวณ สร้างสีสันตื่นตาตื่นใจอย่างมาก

พล.ร.ท.วิพากษ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลของพระคู่ฟ้าคู่แผ่นดินได้เวียนมาบรรจบ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าชาวอำเภอสัตหีบ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ดำเนินโครงการปลูกป่า ภายใต้แนวคิด “รวมพลังพลิกพื้นป่า ป่าไม้มั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” เพื่อฟื้นฟูป่าที่ถูกทำลายให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และสืบสานพระราชปณิธานตามแนวพระราชดำรัสของทั้ง 2 พระองค์ ที่มีต่อปวงชนชาวไทยให้รักษ์น้ำ รักษ์ป่า และปลุกจิตสำนึกให้เห็นถึงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้

สำหรับผืนป่าแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ในอดีตสภาพป่าได้ถูกบุกรุกเพื่อครองครอง ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดำเนินการจับกุม และเร่งฟื้นฟูพื้นป่ากลับคืน ซึ่งพื้นที่แห่งนี้มีเส้นทางจักรยานตัดผ่านจังหวัดชลบุรี ได้จัดทำโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมากจากพระราชดำริ ระยะทาง 20 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ออกกำลังกาย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในอนาคต