ยอมเปิดปาก! ครูพละมือปาแก้ว นร.ปากเบี้ยวเผยรักลูกศิษย์ไม่คิดทำร้าย-ผอ.ตั้ง กก.ฟันวินัย

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผอ.ร.ร.โชคชัยสามัคคีตั้ง กก.ฟันวินัย “ครูพละ” ปาแก้วใส่นักเรียนปากเบี้ยว เสียโฉม ตาปิดไม่สนิทแล้ว คาดเชือดใน 7 วัน ด้านครูพละยอมเปิดปากครั้งแรก บอกครูรักและผูกพันกับลูกศิษย์ทุกคน รวมถึง “น้องทราย” ยังรักและเป็นห่วงเช่นเดิมไม่เคยคิดทำร้าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาจะช่วยคลี่คลายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ตอนนี้ขอมุ่งมั่นนำเด็กเข้าแข่งขันกีฬานักเรียนปลาย ก.ย.นี้

วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก ครูพลศึกษา โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ปาแก้วกาแฟเมลามีนกระเด็นไปโดนบริเวณใบหน้า น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือ “น้องทราย” อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.5) ขณะเรียนวิชาเซปักตะกร้อ ทำให้ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาทคู่ที่ 7 ส่งผลให้ใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. และมีการแจ้งความดำเนินคดี รวมทั้งสั่งย้ายนายไพฑูรย์ออกนอกพื้นที่ พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้ผลสรุปว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง จึงส่งผลสอบให้ต้นสังกัดดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อไป ตามที่นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุด ว่าที่ ร.ต.นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนโชคชัยสามัคคี เปิดเผยว่า กระบวนการเอาผิดทางวินัยของทางราชการจะไม่เหมือนกับกระบวนการศาล ลำดับแรกเมื่อมีการตั้งกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงแล้ว และชี้ว่ามีความผิดไม่ร้ายแรงซึ่งมีบทลงโทษอยู่ 3 ระดับ คือ การว่ากล่าวตักเตือน, ตัดเงินเดือน, ลดขั้นเงินเดือน โดยครูไพฑูรย์จะต้องถูกรับโทษใน 3 รายการนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง และขั้นตอนต่อจากนี้ไปทางโรงเรียนได้ตั้งกรรมการสอบวินัยซึ่งกรอบเวลาดำเนินการภายใน 15 วัน แต่คิดว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 7 วัน ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของเด็กนักเรียนด้วยว่าจะมาให้ปากคำหรือไม่ เพราะตอนนี้น้องทรายเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลยันฮี กรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนคดีอาญาและคดีแพ่ง ไปว่ากันในชั้นศาล ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการของตำรวจในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างครูพละกับลูกศิษย์ ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา และครูของเด็กๆ ไม่รู้สึกหนักใจอะไรเพราะความจริงคือความจริง

ส่วนกรณีที่เด็กต้องการย้ายโรงเรียนนั้นไม่มีปัญหาอะไร สามารถย้ายได้ เวลาเรียนของเด็กมีเวลาเรียนเกิน 80% ทุกวิชา ทั้ง 13 วิชาสามารถมาสอบในสัปดาห์หน้าได้ แต่หากเด็กรักษาตัวหรือเด็กไม่สะดวกที่จะมาสอบในเวลาตามตารางสอบสามารถมาติดต่อสอบได้ โดยส่วนตัวตนอยากให้เรียนที่เดิม แต่ไม่รู้เด็กจะกล้าเรียนที่เดิมหรือเปล่าเพราะเหตุการณ์เป็นแบบนี้ แต่ย้ายก็ย้ายได้

ด้านนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก ครูพละโรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันถูกสั่งย้ายมาช่วยราชการชั่วคราวที่โรงเรียนบุญวัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยครั้งแรกกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ต้องการชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเกรงจะมีผลกระทบต่อเด็กซึ่งเป็นลูกศิษย์ และขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เราเป็นครู มีความรัก และผูกพันกับลูกศิษย์ทุกคน รวมถึงตัว “น้องทราย” ด้วย ไม่เคยคิดจะทำร้ายลูกศิษย์อย่างแน่นอน และยังมีความรัก เป็นห่วง “น้องทราย” ในฐานะครูกับลูกศิษย์เหมือนเดิม

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาจะช่วยคลี่คลายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ซึ่งตอนนี้ขอมุ่งมั่นพาเด็กนักเรียนไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียนในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ก่อน” นายไพฑูรย์กล่าวในตอนท้าย