ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผอ.โรงเรียนโชคชัยสามัคคีโคราชแจงเหตุนักเรียนถูกครูพละปาแก้วใส่หน้าเสียโฉมเป็นความจริง ชี้โรงเรียนไม่นิ่งนอนใจ สอบเบื้องต้นพบว่าครูพละไม่มีเจตนาขว้างแก้วใส่เด็กแต่ได้ปาแก้วใส่กำแพงและกระเด็นไปโดนหน้าศีรษะเด็ก โดยยอมจ่ายค่ารักษาให้ แต่เนื่องจากทางครอบครัวเรียกค่าเสียหายแพงตกลงกันไม่ได้จึงเกิดเรื่องขึ้น ด้านเจ้าตัวลากิจครึ่งวัน
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความลงบนโลกโซเชียลร้องเรียนว่าถูกคุณครูชายที่สอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนขว้างปาถ้วยแก้วถูกกกหูด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาทคู่ที่ 7 ส่งผลให้ใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559
หลังเกิดเหตุได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา แต่เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้าจนต้องโพสต์ข้อความลงบนโลกโซเชียล จนมีคนเข้าไปแสดงความเห็นใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่ง น.ส.นฤดีระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 09.00 น.เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2559 ตนเอง และเพื่อนในห้องกำลังเรียนวิชาพลศึกษา โดยครูชายคนที่ก่อเหตุได้ให้ตนนั่งเข้าแถวเพื่อรอการเรียนการสอน
แต่จุดที่ตนนั่งนั้นมีแสงแดดส่อง และร้อนมาก ตนและเพื่อนจึงยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหลบแดด แต่คุณครูที่สอนวิชาพละ คือ นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ได้แสดงความไม่พอใจพร้อมกับใช้แก้วน้ำกระเบื้องเซรามิกขว้างปาใส่มาที่พวกตนยืนอยู่ ทำให้แก้วไปโดนกกหูด้านซ้ายของตนจนบวม ซึ่งในเวลาต่อมาตนได้มีอาการใบหน้าผิดรูปร่าง ปากเบี้ยว และตาด้านซ้ายปิดไม่สนิท ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จนขณะนี้เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนโชคชัยสามัคคีเพื่อหารายละเอียดเรื่องดังกล่าว โดย ว่าที่ ร.ต.นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนโชคชัยสามัคคี ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเกิดเหตุตนได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
เบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริง แต่ครูพละคนดังกล่าวไม่ได้มีเจตจาขว้างปาแก้วน้ำใส่เด็กนักเรียน เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเด็กนักเรียนหลายคนยืนไม่เป็นระเบียบ และพูดคุยกันส่งเสียงดัง ครูพละจึงใช้แก้วน้ำขว้างปาใส่กำแพงเพื่อปรามให้เด็กเงียบลง แต่แก้วน้ำที่ปาถูกกำแพงกลับกระเด็นไปโดนศีรษะของเด็กนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุครูพละได้ยอมรับผิดว่าสาเหตุเกิดจากการกระทำของตัวเอง แต่ไม่ได้มีเจตนาปาแก้วน้ำไปโดนเด็กนักเรียนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุคุณครูพละคนดังกล่าวก็ได้แสดงความรับผิดชอบโดยได้ออกค่ารักษาพยาบาลให้แก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้วหลายครั้ง ยอดรวมเป็นเงินประมาณ 40,099 บาท ซึ่งต่อมาทางครอบครัวของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 3 แสนบาท แต่คุณครูพละไม่มีเงินจ่าย จึงต่อรองราคาค่าเสียหายที่ 100,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเจรจาตกลงค่าเสียหายกันได้
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยินดีให้ทุกฝ่ายสอบถามเรื่องราวจากเพื่อนเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ และให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นด้วย
ว่าที่ ร.ต.นิพนธ์กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพละก็ยังคงเดินทางมาทำงานตามปกติเป็นประจำทุกวัน ไม่ได้หนีไปไหนและรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ แต่วันนี้ครูไพฑูรย์ได้ขออนุญาตลาครึ่งวันเนื่องจากติดภารกิจกับครอบครัว