ลำปาง - รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่ลำปาง ดึงสภาเกษตรกรร่วมแก้ปัญหายาเสพติด ย้ำปัญหายาเสพติดของอาเซียนจะหมดก็ต่อเมื่อชาติสมาชิกทุกประเทศร่วมปิด “สามเหลี่ยมทองคำ” ประเทศอุตสาหกรรมช่วยสกัดสารตั้งต้นได้
วันนี้ (7 ก.ย.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรเครือข่ายเกษตรกรอาสาพัฒนาประชารัฐ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่โรงแรมลำปางเวียงทอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด, หัวหน้าส่วนราชการ, ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำองค์กรเกษตรกรในทุกระดับของ 17 จังหวัดภาคเหนือเกือบ 400 คน เข้าร่วมรับฟังแนวนโยบาย ก่อนนำไปต่อยอดแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนต่อไป
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ปัญหาทุกปัญหาไม่ว่ายาเสพติด ทุจริต คอร์รัปชัน สามารถแก้ได้หากมีการบูรณาการและดึงประชาชนเข้ามาร่วมแก้ แต่เน้นอย่านำคนที่สร้างปัญหามาแก้ปัญหาเพราะจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ส่วนปัญหายาเสพติด ซึ่งยังไม่สามารถทำให้หมดไปได้นั้น ตราบใดที่ยังให้ผู้ผลิตสามารถผลิตยาบ้า และส่งมาขายได้ก็จะยังไม่หมด วิธีเดียวคือ ต้องปิดสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งตนเองได้ขอความร่วมมือ 10 ประเทศอาเซียนให้ร่วมกันทำในเรื่องนี้ โดยมีการวางแผนการทำงานไว้ 10 ปี รวมถึงประเทศที่ได้รับผลกระทบ หรือเป็นผู้ผลิตสารตั้งต้นก็ได้ให้ความร่วมมือแล้วเช่นกัน แต่ก็ต้องใช้เวลา
ขณะที่ในบ้านเราคงต้องเริ่มจากการสร้างความเข้าใจเรื่องยาเสพติดให้แก่ประชาชนได้รับรู้ก่อนจะไปถึงการป้องกัน แก้ไข และเรียนรู้ว่ายาเสพติดไม่สามารถทำให้หมดไปได้ แต่จะทำอย่างไรที่จะอยู่กับมันแบบไม่มีอันตราย จุดนี้สำคัญ
และเพื่อให้การทำงานเดินหน้าไปสู่การปฏิบัติอย่างเห็นผล และยั่งยืน จำเป็นที่จะต้องอาศัยภาคประชาชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจ และแพทย์ ที่มีเครือข่ายมากที่สุดถึงระดับตำบล ซึ่งถือว่าใกล้ชิดกับประชานมากที่สุด
สำหรับการดึงเกษตรกรเข้ามาร่วมแก้ปัญหา ก็เพื่อเป้าหมายในการสร้างหมู่บ้าน ชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติดตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้าน-ชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติดในระดับพื้นที่ โดยบทบาทเครือข่ายเกษตรกร คือ การเป็นกลไกสำคัญในระดับพื้นที่ ที่จะมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิด สะท้อนปัญหา และร่วมกันทำงาน กำหนดแผนปฏิบัติการให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านการปราบปรามยาเสพติด ด้านการบำบัดรักษา และด้านการป้องกันยาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป
“นโยบายของกระทรวงยุติธรรมที่ว่าการแก้ปัญหาทุกอย่างต้องแก้ขึ้นมาจากชุมชน ซึ่งก็จะสอดคล้องกัน เพราะบางปัญหาอาจจะเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ เกิดจากผู้บริหาร ซึ่งหากจะใช้เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้บริหารไปแก้ ก็จะมีระบบอุปถัมภ์ หรือการเอื้อกัน ก็จะเป็นความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ก็จะแก้ไม่ได้”
ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ชุมชน เพราะประเทศไทยเกิดจากชุมชน เกิดจากหมู่บ้าน คืออย่าเอาคนที่สร้างปัญหามาแก้เพราะจะแก้ไม่ได้ และการผนึกกำลังกันในหลายภาคส่วนก็คงจะไม่ได้เน้นเฉพาะเรื่องยาเสพติดอย่างเดียว แต่คงจะผนวกในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน
ด้านปัญหายาเสพติดชายแดน ซึ่งมีพื้นที่กว้างก็ยากที่จะแก้ปัญหาที่ผ่านมาหลายสิบปีเจ้าหน้าที่ก็ทำ แต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะพื้นที่กว้าง แต่ก็จะอ้างว่าเพราะพื้นที่กว้างแล้วแก้ไม่ได้ก็คงไม่ใช่ สิ่งที่กำลังทำอยู่คือ ร่วมกับต่างประเทศในการที่จะเข้าไปปิดสามเหลี่ยมทองคำ คือจะทำอย่างไรเพื่อให้แหล่งผลิตยาเสพติดเหล่านั้นหมดไปจากโลกนี้ จากพื้นที่อาเซียนของเรา 10 ประเทศ และอีก 3-4 ประเทศก็ได้มาร่วมมือกัน
“นโยบายคือเราจะไม่มาปิดตะเข็บชายแดนของเรา แต่จะต้องไปปิดตะเข็บสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งจะทำให้การทำงานแคบลง แต่ก็ต้องช่วยกันในการใช้ทุกรูปแบบจัดการ รวมถึงสนับสนุนประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี เข้ามาร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย”
โดยบรรจุอยู่ในแผน 10 ปี 59-68 ขอให้ 10 ประเทศร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ณ จุดสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงการรณรงค์ไปถึงระดับโลกด้วย เช่น การผลิตสารตั้งต้นจากประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นอกอาเซียน ต้องให้ประเทศเหล่านั้นเข้ามาร่วมรับผิดชอบดูแลควบคุมด้วย เพราะที่สามเหลี่ยมทองคำยาบ้าผลิตจากสารเคมีตั้งต้น ซึ่งประเทศอาเซียนไม่ได้ผลิตสารเคมี ต้องให้ประเทศที่ผลิตสารตั้งต้นควบคุมให้ หากควบคุมได้ก็จะไม่มีการผลิตยาบ้าในอาเซียนได้อีกปัญหาก็จบ
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน รมว.ยธ.มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และพบปะแกนนำกลุ่มที่บ้านไร่ศิลาทอง ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง เพื่อรับฟังสถานการณ์ยาเสพติด และผลการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนตามโครงการหมู่บ้านศีล 5 ที่ได้นำด้านศาสนาเข้ามาใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด จนทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ประสบความสำเร็จ โดยปัจจุบันผู้ที่เคยติดยาได้รับการบำบัดแล้ว ทั้งยังได้มีการส่งเสริมอาชีพให้ทำไม่หวนกลับไปเสพยาอีก