ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านร้องเทศบาลนครแหลมฉบัง หาวิธีแก้ไขลานวางตู้คอนเทนเนอร์ ที่ปัจจุบันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชุมชน และผู้ใช้รถใช้ถนน ด้านเทศบาลฯ อ้างเรื่องติดอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่สามารถจัดการ
นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทยและมูลนิธิจิตอาสา เผยว่า ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันทางเทศบาลนครแหลมฉบัง ทราบว่า กำลังมีปัญหาในเรื่องของลานวางตู้คอนเทนเนอร์ และลานจอดรถหัวลาก ในพื้นที่เทศบาลแหลมฉบัง ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนอย่างหนัก โดยเป็นกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกือบทุกวัน
จากสถิติข้อมูลความเดือดร้อนรำคาญของประชาชนในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พบว่า ในปี 2558 มีทั้งหมด 109 เรื่อง เรื่องที่สำคัญ และมีผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนมากที่สุด และแก้ไขปัญหาได้ยากที่สุด มาจากกิจการลานวางตู้สินค้า หรือตู้คอนเทนเนอร์ และลานจอดรถหัวลากซึ่งมีอยู่ 21 เรื่อง รวมทั้งมีอุบัติเหตุจากตู้คอนเนอร์หล่นบนถนนอีกหลายครั้งในรอบปี
ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบการไปเช่าที่ดินของประชาชนในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง และนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกระจัดกระจายอยู่ในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งสถานประกอบกิจการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดเรื่องร้องเรียน และเหตุรำคาญมากยิ่งขึ้น เช่น ปัญหาการจราจรติดขัดจากรถลากตู้คอนเทนเนอร์ภายในชุมชน ฝุ่นละอองเนื่องจากพื้นของลานกองตู้ และลานจอดรถหัวลากไม่มีการเทพื้นด้วยวัสดุที่มั่นคงแข็งแรง ทำให้เกิดการแตกร้าวนำฝุ่นละอองฟุ้งกระจายขึ้นมา เสียงดังรบกวนทั้งกลางวันกลางคืนเนื่องจากรถวิ่งเข้าออก และการใช้เครื่องจักรยกตู้คอนเทนเนอร์ ความสั่นสะเทือนจากการขนถ่ายตู้ และรถบรรทุกรถหัวลากวิ่งเข้าออกพื้นที่
ปัญหาทั้งหมดก่อให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่อสภาพความเป็นอยู่ และจิตใจของชุมชนอย่างมาก เทศบาลแหลมฉบังเองในปัจจุบันยังไม่สามารถออกข้อกำหนดของท้องถิ่นในการควบคุมกิจการดังกล่าวได้ เนื่องจากจะต้องให้กระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการสาธารณสุขตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 กำหนดให้กิจการลานวางตู้คอนเทนเนอร์ และลานจอดรถหัวลากเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามมาตรา 31 ของพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ก่อน เทศบาลฯ จึงจะสามารถออกข้อกำหนดท้องถิ่นตามมาตรา 32 เพื่อกำกับดูแลกิจการดังกล่าวได้ต่อไป ซึ่งเป็นช่องว่างของกฎหมายที่ผู้ประกอบกิจการไปเช่าที่ดินในชุมชน เพื่อจัดทำเป็นลานวางตู้คอนเทนเนอร์ และลานจอดรถหัวลากและก่อความเดือดร้อนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้ทราบว่าเทศบาลแหลมฉบัง ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาออกประกาศเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องขอคำตอบจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขด้วย
แหล่งข่าวจากเทศบาลแหลมฉบัง เผยว่า เทศบาลได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ให้พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาจากลานจอดรถหัวลาก และลานวางตู้สินค้าตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2559 โดยขอให้เพิ่มกิจการทั้ง 2 ประเภทเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้ส่งให้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอคณะกรรมการสาธารณสุขพิจารณาออกประกาศดังกล่าวภายในเดือนเดียวกัน
แต่จนบัดนี้เป็นเวลา7-8 เดือนแล้ว ยังไม่มีคำตอบจากกรมอนามัยแต่อย่างใด ทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนอย่างมาก เทศบาลนครแหลมฉบัง ทำได้เพียงตักเตือน และปรับตามกฎหมายไม่เกิน 2,000 บาทเท่านั้น แต่หากมีการประกาศเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก็จะทำให้สามารถควบคุม กำกับ ดูแลกิจการประเภทดังกล่าวได้ตั้งแต่การขออนุญาต การเลือกที่ตั้ง รวมทั้งการกำหนดเงื่อนไขในใบอนุญาตได้ต่อไป