อุบลราชธานี - ไม่แก่เกินเรียน นักเขียนหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ “วนิดา คุ้มอนุวงศ์” วัย 44 ปี สมัครเป็นเฟรชชี่ ชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาเวียดนามและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เรียนรวมกับเพื่อนร่วมชั้นอายุห่างกันราว 25
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หลังเปิดภาคเรียนใหม่ประจำปีการศึกษา 2559 ปรากฏในสาขาวิชาเวียดนามและการสื่อสาร นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 15 คน ได้พบกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีอายุมากถึง 44 ปี ซึ่งห่างจากเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดเกือบ 25 ปี มาเรียนด้วย นามว่า น.ส.วนิดา หรือดา คุ้มอนุวงศ์ อายุ 44 ปี
หลังสร้างความแปลกใจให้แก่เพื่อนนักศึกษาที่เรียนร่วมกันได้ไม่นาน ทั้งหมดก็เริ่มสนิทสนมและเพื่อนร่วมชั้นรุ่นน้องก็รับรู้ถึงการเข้ามาสมัครเรียนครั้งนี้ เพราะ น.ส.วนิดามีความตั้งใจว่าจะเอาความรู้ที่ได้เรียนในช่วง 4 ปีใช้ประโยชน์ด้านการเขียนวรรณกรรมและบทกวีในภาษาเวียดนาม และชดเชยความต้องการช่วงวัยสาวที่ไม่ได้เรียนเพราะทางบ้านประสบปัญหาการเงิน ทำให้เรียนได้สูงสุดแค่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น
น.ส.วนิดายังเล่าว่า ในช่วงวัยสาวได้ออกไปประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับสื่อสารมวลชนเพื่อช่วยเหลือครอบครัว และด้วยความรักในการเขียนหนังสือ ก็ได้เขียนหนังสือด้านวรรณกรรม และตำราอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น กินดื่มต้านโรคเกาต์ มะรุมต้านมะเร็ง กินดื่มต้านภาวะกระดูกพรุน โดยใช้นามปากกา “วนิดา คุ้มอนุวงศ์” ซึ่งมีวางขายในร้านจำหน่ายหนังสือชื่อดังทั่วประเทศ
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วัย 44 ปีรายนี้ยังได้กล่าวถึงการเลือกมาเรียนกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพราะได้แรงบันดาลใจจาก ดร.สิริวงษ์ หงส์สวรรค์ อดีตอาจารย์ประจำหลักสูตรภาษาเวียดนาม ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว บอกว่า อนาคตภาษาเวียดนามจะมีบทบาทในตลาดแรงงานทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน
ประกอบกับส่วนตัวก็ชื่นชอบภาษาเวียดนาม จึงต้องการพูดและเขียนภาษาเวียดนามได้อย่างลึกซึ้ง ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ของภาษา เพื่อนำมาใช้เขียนหนังสือในภาษาดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการมาเรียนก็ได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ เพราะต้องการให้ตนมีวิชาความรู้นำไปใช้ประกอบอาชีพจนถึงวัยเป็นผู้สูงอายุ
สำหรับที่เลือกเรียนกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพราะมีหลักสูตรแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยในเวียดนาม โดยก่อนจบการศึกษานักศึกษาชั้นปีที่ 4 ต้องไปเรียนจริงกับเจ้าของภาษาที่ประเทศเวียดนามเป็นเวลา 1 ปีเต็ม จึงเห็นเป็นโอกาสตัดสินใจสมัครเข้าสอบคัดเลือกและผ่านการสอบเข้ามาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้ดังกล่าว
ในระหว่างร่วมเรียนกับเพื่อนต่างวัย น้องๆ ก็ให้ความเคารพ มีการหยอกล้อสร้างความสนุกสนาน ไม่รู้สึกขัดเขินว่าตนเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า บางครั้งน้องๆ ก็จะหยอกเรียกตนว่าแม่ ให้ตนไปทำอาหารให้รับประทานที่หอพักกันบ้าง
ขณะที่เพื่อนนักศึกษาร่วมชั้นอย่างนายธานุวัฒน์ ม่วงอ่อน สาขาภาษาอังกฤษและการสื่อสารปี 1 คณะศิลปศาสตร์ กล่าวว่า ตอนแรกรู้สึกแปลกใจทำไมอายุมากแล้วยังมาเรียน แต่เมื่อทราบจุดประสงค์ก็มีความรู้สึกดีต่อพี่ดา และกลายเป็นว่าพี่เขาสามารถเอาประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาช่วยให้น้องๆ มีความรู้เพิ่มขึ้น เวลาเจอกันตนจะทักทายพูดคุยกับพี่ดาเป็นภาษาอังกฤษ และพี่ดาก็จะตอบกลับเป็นภาษาเวียดนาม จึงเป็นวิธีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีมาก รวมทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า การศึกษาไม่มีช่องว่างชนชั้นหรือวัย คนทุกเพศทุกวัยสามารถมาเรียนได้
ส่วนนางสาวชลลดา เอกวัฒน์ สาขาเวียดนามและการสื่อสาร ปี 1 คณะศิลปศาสตร์ เพื่อนนักศึกษาร่วมวิชาเดียวกันกล่าวถึงเพื่อนนักศึกษาวัย 44 คนนี้ว่า ทำให้ตัวเองต้องตระหนักเรื่องความพยายามเรียนรู้ เพราะพี่ดาอายุมากแล้วยังมาเรียน เมื่อได้เรียนร่วมกับพี่ดา เอาความรู้ประสบการณ์ที่ศึกษาภาษาเวียดนามมาก่อนช่วยสอนน้องๆ ทำให้มีความอบอุ่นเหมือนมีแม่ พวกตนจึงเรียกพี่ดาว่าแม่ และขอบอกเลยว่าพี่ดาทำอาหารได้อร่อยมาก
