xs
xsm
sm
md
lg

นร.-ครู “เรยีนา” เดินขบวนชูป้ายค้านผุดคอนโด 900 ยูนิตประชิดรั้วโรงเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เด็กนักเรียน และอาจารย์ พร้อมผู้ปกครองโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย เดินขบวนชูป้ายคัดค้านและเรียกร้องให้ทางกรมธนารักษ์พิจารณาล้มโครงการผุดคอนโดมิเนียมกว่า 900 หน่วย บนที่ราชพัสดุติดรั้วโรงเรียน

วันนี้ (11 ส.ค. 59) กลุ่มอาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย พร้อมด้วยผู้ปกครองจำนวนมาก ร่วมกันเดินขบวนพร้อมถือป้ายคัดค้านเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ของกรมธนารักษ์ ที่จะก่อสร้างอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียมอาคาร จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยหลายร้อยหน่วย บนที่ดินราชพัสดุประมาณ 9 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา ที่อยู่ติดกับโรงเรียน บนถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

โดยนายสุลักษณ์ สุริยยศ ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนและกรรมการโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้องในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ต่างตั้งข้อกังขาว่าทางกรมธนารักษ์ได้พิจารณารอบคอบถึงกายภาพของชุมชนแล้วหรือไม่ เนื่องจากถนนเจริญประเทศมีโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ อยู่ 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย,โรงเรียนพระหฤทัยเชียงใหม่, โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (แผนกประถม) และโรงเรียนสวนเด็กเชียงใหม่ ซึ่งยังเกี่ยวโยงการสัญจรกับถนนช้างคลานซึ่งมีโรงเรียนขนาดกลางอีก 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนวชิรวิทย์เชียงใหม่ช้างคลาน, โรงเรียนมาร์มาร่าวิชัยวิทยา และโรงเรียนสันติศึกษา ซึ่งมีจำนวนนักเรียนกว่า 1 หมื่นคน รวมทั้งที่ดินที่จะสร้างนั้นเป็นที่ดินที่สามารถเข้าออกได้ทางเดียว

ทั้งนี้ สภาพถนนเจริญประเทศ เป็นถนน 2 เลน ขนาด 8 เมตร ซึ่งการเดินรถในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ก็จะมีการปรับเป็นการเดินรถทางเดียว (วันเวย์) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงดังกล่าว ดังนั้นจึงเป็นที่รู้กันดีว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่มีปัญหาด้านการจราจรอยู่แล้ว หากมีที่พักอาศัยขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอีกบนถนนเจริญประเทศ

โดยเฉพาะโครงการดังกล่าวที่มีแผนสร้างกว่า 900 คูหา จะก่อให้เกิดสภาพการจราจรที่หนาแน่นหนักกว่าปัจจุบันอีกหลายเท่า อันจะส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนในชุมชน ผู้มีเหตุต้องสัญจรเร่งด่วน ทั้งด้านการจราจร มลพิษทางอากาศ และความปลอดภัยทางถนนต่อเด็กนักเรียน

นอกจากนั้น ในพื้นที่โครงการก่อสร้างนั้นมีต้นไม้ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ซึ่งเป็นปอดขนาดใหญ่แห่งเดียวกลางเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นหากก่อสร้างโครงการดังกล่าวก็จะทำให้ปอดขนาดใหญ่ของเชียงใหม่หายไป ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ธนารักษ์เองก็เคยลงนามกับเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อนันทนาการ และจัดทำเป็นสวนสาธารณะ อันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่ต่อมาธนารักษ์กลับยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งเมื่อปี 2553 ทางโรงเรียนทั้งหมดบนถนนเจริญประเทศร่วมกับชมรมจักรยานวันอาทิตย์เชียงใหม่ ก็เคยร่วมทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังให้ทบทวนการยกเลิกข้อตกลง แต่เนื่องจากความผันผวนทางการเมืองทำให้ไม่มีข้อสรุปมาจวนจนปัจจุบัน จึงอยากขอให้ทบทวนพื้นที่ก่อสร้างเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่เพื่อรักษาต้นไม้ขนาดใหญ่และคงพื้นที่สีเขียวไว้

“ล่าสุดทางตัวแทนจากกรมธนารักษ์ได้มาที่โรงเรียน แล้วถามว่าต้องการอะไร อาจจะไม่ใช่ตัวเงินแต่เป็นความสะดวกสบายมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งบรรดาครูอาจารย์ หรือชมรมผู้ปกครองนั้น ถือว่าไม่ใช่สิ่งที่สมควร เพราะปัญหาไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายและไม่ใช่แค่เรื่องของโรงเรียน แต่ผู้ได้รับผลกระทบคือคนทั้งชุมชน เมื่อถนนขยายไม่ได้ สิ่งที่สมควรคือไม่เพิ่มความเสี่ยงที่จะเพิ่มความแออัดลงไปอีก โครงการดังกล่าว 900 ยูนิต หากแต่ละยูนิตเท่ากับ 1 ครอบครัว และแต่ละครอบครัวมีรถยนต์ 1 คัน รวมแล้วมีรถสัญจรเพิ่มบนถนนเส้นนี้อีก 900 คันต่อวัน ซึ่งความจริงแล้วอาจจะมากกว่านั้น ทำให้มีความแออัดเพิ่มขึ้นอีกมาก” นายสุลักษณ์กล่าว

ขณะที่ ด.ญ.ธรรมรินทร์ สุยะหล้า หรือน้องแพนด้า อายุ 6 ขวบเศษ นักเรียนชั้น ป.1/4 ออกมาเป็นตัวแทนพูดต่อสื่อมวลชนว่า ไม่อยากให้ก่อสร้างโครงการนี้เพราะเป็นการทำลายธรรมชาติ ต้นไม้ที่อยู่บริเวณนี้กว่าจะโตต้องใช้เวลาหลายเดือนหลายปี เป็นพื้นที่สีเขียวที่ให้อากาศบริสุทธิ์ หากตัดต้นไม้ไปจะมีแต่มลพิษ ต้องสูดอากาศเดิมๆ ไม่มีออกซิเจน อากาศหมด เกิดมลพิษอย่างมากก็จะตายในที่สุด ไม่อยากให้ตัดต้นไม้และทำลายธรรมชาติ ขอให้ทุกคนช่วยกันคัดค้านไม่ให้ก่อสร้างในพื้นที่นี้ด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น