ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ว่าฯ ขอนแก่นแถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริง ระบุ “หมอเปรม” ก่อเหตุกักขัง-ถอดกางเกงผู้สื่อข่าวมีมูลความผิด สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยผู้บริหารท้องถิ่น ใช้เวลาทำงานรู้ผลภายใน 120 วัน ชี้บทลงโทษสูงสุดพ้นจากตำแหน่งสถานเดียว
วันนี้ (11 ส.ค. 59) ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น และคณะกรรมการสอบสวนระดับจังหวัดกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ก่อเหตุคุกคามผู้สื่อข่าวกักขังและถอดกางเกงผู้สื่อข่าว แถลงผลการสอบสวนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากครบกำหนดระยะเวลาสอบสวน 15 วัน
นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนที่จังหวัดแต่งตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนหลังจากสอบปากคำพยานทั้ง 2 ฝ่ายและเอกสารหลักฐานต่างๆ พบว่ามีมูลความผิดและเป็นเหตุการณ์ที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ก่อเหตุดังกล่าวจริง จากนี้ไปจะเข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวนเอาผิดทางวินัย แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผู้บริหารท้องถิ่น ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2554 มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน มีกรรมการสอบสวนทั้งหมด 5 คน ทั้งหมดไม่ใช่คณะกรรมการชุดเดิมที่สอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยจะลงนามคำสั่งแต่งตั้งวันนี้
การสืบสวนของคณะกรรมการเพื่อสอบหาข้อเท็จจริงนั้น พบว่าพยานบุคคลคือหลักฐานสำคัญที่สุด ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ให้มาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่พบพิรุธและเหตุที่เชื่อได้ว่ามีการให้การเท็จ ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนจึงใช้ดุลพินิจและมีการสรุปสำนวนและแนวทางการสอบสวน โดยพบว่ามีมูลที่ นพ.เปรมศักดิ์ได้กระทำการจริง จึงต้องเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
คณะกรรมการที่จังหวัดจะแต่งตั้งขึ้นในการสอบสวนทางวินัยว่าด้วยระเบียบของกระทรวงมหาดไทยนั้น ให้ระยะเวลาสอบสวน 120 วัน และสามารถจะยืดเวลาสอบสวนได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน เชื่อว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะทำงานได้อย่างรัดกุม รอบคอบ เพราะที่ผ่านมาเป็นขั้นตอนให้ความเป็นธรรม ซึ่งเมื่อความเป็นธรรมนั้นปรากฏจะเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยสรุปสำนวนให้กับ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาบทลงโทษ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้บทลงโทษคือการพ้นจากตำแหน่งสถานเดียว