กาฬสินธุ์ - หลายโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ สั่งคุมเข้มหลังเกิดข่าวลือมีชายแปลกหน้าเข้าไปเดินจูงแขนเด็กนักเรียนชั้น ป.1 กลางเมือง อ้างพาไปซื้อขนมแต่เด็กไม่ยอมไปและวิ่งเข้าโรงเรียนในช่วงเช้า ผู้ปกครองเกรงว่าจะเป็นแก๊งรถตู้ที่ออกอาละวาดขโมยเด็กนักเรียน
วันนี้ (5 ส.ค.) บาทหลวงวีระพงศ์ โพธิมล ผู้จัดการโรงเรียนเซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้ประกาศขอความร่วมมือผู้ปกครองซึ่งมาส่งนักเรียนให้ช่วยกันเฝ้าระวังและตรวจสอบสภาพแวดล้อม หลังจากที่เมื่อวานนี้มีผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาลมาแจ้งทางโรงเรียนว่ามีชายแปลกหน้าอายุประมาณ 30 ปี ได้เดินเข้าไปจูงแขนโดยบอกว่าจะพาไปซื้อขนม แต่เด็กนักเรียนซึ่งผู้ปกครองบอกเอาไว้ว่าหากพบชายแปลกหน้าให้รีบวิ่งหนี นักเรียนคนนี้จึงได้ปฏิเสธและสะบัดมือวิ่งเข้าโรงเรียนไป
ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับผู้ปกครองอีกรายที่โรงเรียนอนุบาลกาฬสินธุ์ก็เกิดเหตุในลักษณะเช่นเดียวกัน โดยเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี เข้ามาทำทีและพูดจาหว่านล้อมเหมือนกัน แต่เด็กนักเรียนก็ได้วิ่งเข้าโรงเรียนเช่นกัน เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเช้า ทำให้นายชาตรี ถาวรรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่และขอความร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยตรวจสอบ โดยเฉพาะกลุ่มรถตู้ที่มาส่งนักเรียน ที่เน้นไปที่รถตู้หน้าใหม่ที่จะมีการทำบันทึกตรวจสอบการเข้ามารับส่ง
บาทหลวงวีระพงศ์ โพธิมล ผู้จัดการโรงเรียนเซนต์ยอแซฟ กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีนี้คงไม่ต้องรอให้มีเด็กหาย เพราะเด็กอนุบาลหรือเด็กประถม หากบอกผู้ปกครองโรงเรียนจะต้องตื่นตัว เพราะเป็นความผิดปกติ ซึ่งกรณีนี้จะได้ยินจากข่าวว่ามีแก๊งลักเด็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เราต้องเชื่อไว้ก่อนว่าแก๊งดังกล่าวอาจจะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ดังนั้น ความเข้มข้นในการตรวจสอบก็ต้องขอให้ผู้ปกครองเข้าใจ เพราะโรงเรียนจำเป็นต้องมีมาตรฐานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขโมยเด็กเกิดขึ้น
“สิ่งสำคัญยังสื่อไปถึงผู้ปกครอง เพราะเข้าใจว่าใครๆ ก็รักลูกของตัวเอง ทางโรงเรียนก็รักนักเรียนทุกคนเสมือนลูกคนหนึ่ง ไม่ว่ากรณีนี้จะเป็นจริงหรือไม่ ก็ต้องความร่วมมือไปยังผู้ปกครองทุกคน ซึ่งเป็นไปได้ว่านับจากนี้จะมีมาตรการที่อาจจะทำให้ผู้ปกครองอึดอัด แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนที่เป็นลูกของเรา” บาทหลวงวีระพงศ์กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีนี้ได้รับรายงานเป็นข่าวแล้วซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ทุกฝ่ายจะต้องตื่นตัว เพราะภัยมืดที่แอบแฝงเข้ามาประชาชนทุกคนรวมถึงผู้ปกครองจะต้องช่วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนแปลกหน้า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยได้กำชับไปทุก สถานีฯ ให้ร่วมกันเฝ้าระวัง รวมไปถึงจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลงานจราจรตรวจสอบรถตู้รับส่งนักเรียน เพื่อทำการขึ้นทะเบียนรวมถึงรถที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะรถป้ายดำทุกชนิดเพื่อเป็นการวางมาตรการในการป้องกันปัญหานี้ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ถูกชายแปลกหน้าเข้ามาทำทีตีสนิทได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์แล้ว