xs
xsm
sm
md
lg

“ฝรั่งเศส” เร่งสมานชุมชนต่างศาสนา หลัง 2 “ญิฮัด” บุกฆ่าปาดคอบาทหลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บาทหลวงฌากส์ ฮาเมล วัย 85 ปี ซึ่งถูก 2 คนร้ายสังหารโหดเมื่อวันอังคาร (26 ก.ค.) ภาพนี้ถ่ายขณะที่บาทหลวงท่านนี้ทำพิธีมิสซาในวันที่ 11 มิถุนายน 2016
รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ เมื่อวันพุธ (27 ก.ค.) รีบเร่งหาทางป้องกันไม่ให้เกิดความแตกร้าวหนักยิ่งขึ้นระหว่างประชาคมทางศาสนาต่างๆ ของฝรั่งเศส หลังจากเกิดเหตุคนร้าย 2 คนที่อ้างตัวเป็นนักรบญิฮัดบุกฆ่าปาดคอบาทหลวงคาทอลิกวัยชราผู้หนึ่งขณะทำพิธีภายในโบสถ์ จุดชนวนให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองอย่างดุเดือดเกี่ยวกับผลงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของรัฐบาล

หนึ่งใน 2 คนร้ายที่ก่อเหตุคราวนี้ ซึ่งมีชื่อว่า อาเดล แกร์มิช วัย 19 ปี เป็นผู้ซึ่งทางการฝรั่งเศสทราบอยู่แล้วว่าต้องการเดินทางไปเป็นนักรบญิฮัดในซีเรีย และอยู่ระหว่างถูกกักบริเวณ รวมทั้งให้สวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์คุมความประพฤติ ด้วยเหตุนี้เมื่อข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไปจึงยิ่งเกิดแรงกดดันต่อรัฐบาลพรรคโซเชียลลิสต์ของออลลองด์ ในเรื่องการตอบโต้รับมือกับกระแสการก่อเหตุโจมตีในแดนน้ำหอมซึ่งกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) อ้างความรับผิดชอบ นับตั้งแต่ต้นปี 2015 เป็นต้นมา

“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้พวกเราเองถูกลากเข้าไปสู่การเล่นการเมืองของพวกดาเอช (ไอเอส) ซึ่งต้องการให้เด็กๆ ลูกหลานของครอบครัวเดียวกันกลายเป็นศัตรูกัน” พระคาร์ดินาล อองเดร แวงต์-ตรัว อาร์ชบิชอปแห่งปารีส แถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมของผู้นำศาสนาต่างๆ กับออลลองด์ ณ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงปารีส

ข้างๆ กับพระคาร์ดินาลผู้นี้มีผู้แทนของศาสนาต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งจากนิกายอื่นๆ ในศาสนาคริสต์ ตลอดจนผู้นำจากศาสนายิว, อิสลาม และพุทธ

ขณะที่ ดาลิล บูกาเกอร์ ผู้นำของประชาคมชาวมุสลิมของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชุมชนมุสลิมใหญ่ที่สุดในยุโรปนั้น ก็ออกมาเรียกร้องให้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่บูชาต่างๆ

“เรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าให้สถานที่บูชาต่างๆ ของพวกเราเป็นจุดรวมศูนย์สนใจทางด้านความปลอดภัยให้มากกว่านี้ เป็นจุดโฟกัสอย่างต่อเนื่องยาวนาน” เขากล่าวพร้อมกับบอกว่า ในนามของชาวมุสลิมฝรั่งเศส เขาขอแสดงความเศร้าโศกเสียใจอย่างล้ำลึกที่เกิดการโจมตีคราวนี้ ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “การลบหลู่ดูหมิ่นศาสนา อย่างชนิดตรงกันข้ามกับทุกๆ คำสอนในศาสนาของเรา”
โบสถ์ในเมืองแซงต์-เอเตียนน์-ดู-รูเวรย์  ซึ่งถูก 2 คนร้ายที่โยงใยกับกลุ่มไอเอสเข้าโจมตี และบาทหลวงฮาเมลถูกสังหาร
เหตุการณ์แกร์มิชและคนร้ายอีกคนหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบชื่อ บุกก่อเหตุที่โบสถ์คาทอลิกในเมืองแซงต์-เอเตียนน์-ดู-รูเวรย์ ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองรูออง ในแคว้นนอร์มังดี ก่อนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม นับเป็นเหตุร้ายล่าสุดของการโจมตีต่อเนื่องเป็นระลอกซึ่งเกิดขึ้นในแดนน้ำหอมและยุโรป จากฝีมือของพวกที่เกี่ยวข้องกับนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ ที่มีฐานอยู่ในอิรักและซีเรีย

ฟรองซัวส์ โมแลง อัยการปารีสแถลงในวันอังคาร (26) ว่า หน่วยงานความมั่นคงรู้จักแกร์มิช เนื่องจากเขาเคยถูกจับ 2 ครั้งขณะกำลังเดินทางไปซีเรีย

ทั้งนี้ หลังจากพยายามไปซีเรียครั้งสุดท้ายในเดือนพฤษภาคม 2015 แกร์มิชได้ถูกกักบริเวณจนถึงเดือนมีนาคม ปีนี้ ซึ่งเขาพ้นโทษหลังคำอุทธรณ์ของอัยการปารีสถูกศาลปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม เขาถูกบังคับให้สวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อตำรวจสามารถแกะรอยที่อยู่ของเขาและได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน

โมแลงเผยว่า แกร์มิชและคนร้ายอีกผู้หนึ่งซึ่งยังไม่ทราบชื่อ ใช้มีดเป็นอาวุธและจู่โจมเข้าไปในโบสถ์เก่าแก่แห่งนี้ขณะกำลังมีพิธีมิสซาตอนเช้า จากนั้นก็จับกุมบาทหลวงฌากส์ อาเมล วัย 85 ปี แม่ชี 3 คน และสาธุชนอีก 2 คนเป็นตัวประกัน

แม่ชีรายหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในตัวประกันและสามารถหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุฝรั่งเศส เล่าว่า คนร้ายทั้ง 2 บังคับใช้บาทหลวงวัยชราคุกเข่าลงก่อนสังหารโหด และยังถ่ายภาพวินาทีฆาตกรรมเอาไว้ด้วย “พวกเขาบังคับให้ท่านคุกเข่า ท่านพยายามปกป้องตนเอง” แม่ชีเผย พร้อมบอกว่าเธอหลบหนีออกมาในตอนที่หนึ่งในคนร้ายลงมือสังหารบาทหลวง

ในเวลาต่อมา ตำรวจได้ยิงสังหารคนร้ายทั้ง 2 ขณะพวกเขาออกมาจากโบสถ์แห่งนั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น