นายกฯ ฝรั่งเศสจ่อพิจารณา "ห้ามระดมทุนจากต่างประเทศ" ก่อสร้างมัสยิด

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสกล่าวในวันนี้ (29) ว่า เขาจะพิจารณาการห้ามมัสยิดระดมเงินทุนจากต่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้มี "รูปแบบใหม่" สำหรับความสัมพันธ์กับศาสนาอิสลาม หลังจาการโจมตีของนักรบญิฮาดหลายครั้ง

มานูเอล วาลส์ ซึ่งถูกวิจารณ์เรื่องการละเลยความปลอดภัยจากการโจมตีหลายๆ ครั้ง ยังยอมรับด้วยถึง "ความผิดพลาด" จากความจริงที่ว่า หนึ่งในนักรบญิฮาดที่บุกโจมตีโบสถ์และสังหารบาทหลวงเมื่อวันอังคาร (26) ถูกปล่อยตัวพร้อมกับสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์คุมความประพฤติ

ในการให้สัมภาษณ์กับ เลอ มอนเด หนังสือพิมพ์รายวันของฝรั่งเศส วาลส์ระบุว่า เขาเปิดรับแนวคิดที่ว่าไม่ควรมีการระดมทุนจากต่างประเทศให้กับการก่อสร้างมัสยิด" ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

วาลส์ยังเรียกร้องให้เหล่าอิหม่าม "ได้รับการฝึกอบรมในฝรั่งเศส ไม่ใช่ที่อื่น"

เขากล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เบอร์นาร์ด คาเซเนิฟ ซึ่งเคยทำงานเกี่ยวกับเรื่องศาสนา กำลังทำงานเกี่ยวกับการสร้าง "รูปแบบใหม่ " สำหรับความสัมพันธ์ของฝรั่งเศสกับศาสนาอิสลาม

ทั้งวาลส์และคาเซเนิฟเผชิญกับเสียงเรียกร้องให้ลาออกหลังจากการโจมตีของนักรบญิฮาดครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 2 สัปดาห์ซึ่งก่อให้เกิดความกังขาเรื่องความระแวดระวังและการเตรียมพร้อมของฝรั่งเศส

รัฐบาลเผชิญกับคำถามอย่างหนักหน่วงนับตั้งแต่ที่มันปรากฏออกมาว่า คนร้ายโจมตีโบสถ์ทั้งสองรายอยู่ในการจับตาของหน่วยข่าวกรองและเคยพยายามที่จะเดินทางไปยังซีเรีย

สิ่งซึ่งสร้างความไม่พอใจเป็นพิเศษคือการเปิดเผยที่ว่าหนึ่งในคนร้าย อเดล เคอร์มิเช วัย 19 ปี ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำขณะรอการพิจารณาคดีเกี่ยวกับข้อหาก่อการร้ายหลังจากความพยายามครั้งสองของเขาที่จะเดินทางไปซีเรีย

เคอร์มิเชซึ่งถูกติดป้ายอิเล็กทรอนิกส์ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านของเขาในช่วงเช้าของวันธรรมดา เปิดโอกาสให้เขาและผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาบุกโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งในเขตชุมชนนอร์มังดีของเมืองแซงต์ เตเตียน ดู รูเวย์ และปาดคอ ฌาค อาเมล บาทหลวงวัย 86 ปีที่แท่นบูชา

อับเดล มาลิก เปอตีฌอง ผู้ร่วมก่อเหตุของเคอร์มิเชวัย 19 ปีเช่นกันอยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังด้านความมั่นคงนับตั้งแต่พยายามเดินทางจากตุรกีเข้าสู่ซีเรีย

เหตุโจมตีโบสถ์ครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับความล้มเหลวด้านการรักษาความปลอดภัยหลังจากเหตุสังหารหมู่ด้วยรถบรรทุกในวันชาติที่เมืองนิสซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 84 คนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน