ประจวบคีรีขันธ์ - เอไอเอส ร่วมกับ รพ.สต.บ้านในกริม อำเภอลังสวน จังหวัดชุมพร ดูแลสุขภาพของคนในชุมชน ด้วยการจัดสร้างลานสุขภาพพร้อมเครื่องออกกำลังกายแห่งที่ 10 เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่องให้คนในชุมชนแข็งแรง ห่างไกลโรค และลดความเสี่ยงการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นำร่องโดยเครือข่าย อสม.เป็นต้นแบบของคนในชุมชนหันมาออกกำลังกาย และใส่ใจสุขภาพ โดยมุ่งหวังให้คนในชุมชนมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายมหัณณพ อภินันทนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคใต้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสารได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว เอไอเอส ยังใส่ใจดูแลสังคม โดยเฉพาะชุมชนต่างๆ ที่เรามีสถานีฐานติดตั้งอยู่ เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนมาโดยตลอด โดยหนึ่งในโครงการดูแลสังคม และอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืนนั้น คือ โครงการ “ลานสุขภาพเอไอเอส เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน” ซึ่งจะจัดสร้างไว้ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และในการส่งมอบลานสุขภาพวันนี้ มี ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอพะโต๊ะ รักษาราชการแทนนายอำเภอหลังสวน และนางกุศล สอนทวี ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านในกริม อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร่วมกันรับมอบ
ด้วย เอไอเอส เล็งเห็นว่า ปัจจุบันการเพิ่มขึ้นของความเจ็บป่วยจากการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประชาชนทั่วทั้งประเทศมีอัตราสูงขึ้น โดยสาเหตุหลักมาจากอาหาร การขาดการออกกำลังกาย และความเครียด ซึ่งถึงแม้จะมีการส่งเสริม และให้ความรู้เชิงป้องกันอย่างจริงจังโดยหน่วยพยาบาลระดับปฐมภูมิของชุมชน หรือ รพ.สต.แล้วก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ เอไอเอสจึงได้ร่วมมือกับ รพ.สต.ในแต่ละพื้นที่จัดสร้างลานสุขภาพพร้อมเครื่องออกกำลังกาย และลานเดินนวดเท้าไว้ ณ รพ.สต. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลงานสาธารณสุขชุมชน และเป็นศูนย์กลางในการดูแลส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชนได้มีเครื่องมือในการสนับสนุนให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย มีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ตลอดจนสามารถติดตามและประเมินผลด้านสุขภาพได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการที่เอไอเอสได้จัดสร้างลานสุขภาพในหลายพื้นที่ คนในชุมชนกระตือรือร้น และหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
สำหรับการเปิดลานสุขภาพเอไอเอส ณ รพ.สต.บ้านในกริม อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีฐานบ้านบากแดงของเอไอเอสนี้ นับเป็นลานสุขภาพแห่งที่ 10 ที่เอไอเอสได้จัดสร้างขึ้น โดยมีเครื่องออกกำลังกาย เช่น จักรยานปั่นแนวนอน เครื่องบริหารกล้ามเนื้อแขน เครื่องบริหารเอว และออกกำลังขาแบบย่ำสลับ เครื่องเดินสลับแนวราบ และลานเดินนวดเท้า พร้อมทั้งได้จัดทำคู่มือแนะนำวิธีการใช้เครื่องออกกำลังกายสำหรับให้นักวิชาการด้านสาธารณสุขประจำ รพ.สต.และ อสม. ใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน ทั้งนี้ ทางเอไอเอสยังคงจะเดินหน้าในเรื่องลานสุขภาพในพื้นที่อื่นๆ ต่อไปเพราะได้ประโยชน์แก่ชุมชน
“เอไอเอส และ รพ.สต.จะมีกิจกรรมกระตุ้นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมกันติดตาม และประเมินผลความก้าวหน้าของกลุ่มผู้ป่วย และกลุ่มเสี่ยงเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย และการมีสุขภาพที่ดี มีภูมิคุ้มกันโรค และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง”
นางกุศล สอนทวี ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านในกริม กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลฯ ต้องดูแลสุขภาพของคนใน 6 หมู่บ้าน รวม 1,450 หลังคาเรือน ประชากรจำนวน 3,858 คน ให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติตนให้ห่างไกลจากโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง โรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันในทุกชุมชนจะมีจำนวนผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการรับประทานอาหารมัน ที่มีรสเค็มจัด หวานจัด การขาดการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี และต่อเนื่อง
สำหรับลานสุขภาพชุมชน และเครื่องออกกำลังกายที่ทางเอไอเอสมาจัดสร้างให้ ณ ที่ รพ.สต.บ้านในกริม นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือเพิ่มเติมที่จะใช้ในการส่งเสริมให้คนในชุมชนสามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธี และครบถ้วน โดยทางเจ้าหน้าที่ รพ.สต.และ อสม.จะช่วยแนะนำวิธีการใช้เครื่องออกกำลังกาย พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ในเบื้องต้น รพ.สต.จะให้กลุ่ม อสม.เป็นต้นแบบของการออกกำลังกายเป็นกลุ่มแรก
ซึ่งจะมีการจดบันทึกการออกกำลังกายของ อสม. การตรวจเช็กน้ำหนัก วัดรอบเอว การตรวจสอบประวัติความเจ็บป่วย เพื่อประเมินผลสุขภาพของ อสม.อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นกลุ่มสำคัญที่จะนำร่องการใช้เครื่องออกกำลังกายในการดูแลรักษาสุขภาพ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง หลังจากนั้น จะแนะนำให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หันมาออกกำลังกาย เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการต่อ อสม. พร้อมติดตามและประเมินผลสุขภาพของคนในชุมชนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพื่อประเมินภาพรวมว่ากลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีจำนวนที่ลดลงมากน้อยเพียงใด