xs
xsm
sm
md
lg

อ่วม! เกษตรกรบุรีรัมย์เซ็นชื่อรับปุ๋ยฟรี ถูกบริษัทฟ้องเรียก 20 ล้าน-จ่อฟ้องอีก 200 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตัวแทนเกษตรกร2 อำเภอ จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมและอัยการจังหวัด ช่วยเหลือกรณีถูกบริษัทฟ้องร้องเรียกเงินค่าปุ๋ย 20 ล้านบาท หลังถูกยัดเยียดให้เซ็นชื่อรับปุ๋ยฟรีโครงการส่งเสริมอาชีพของรัฐ วันนี้ ( 28 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - ตัวแทนเกษตรกร 2 อำเภอ จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรม และอัยการจังหวัดช่วยเหลือกรณีถูกบริษัทฟ้องร้องเรียกเงินค่าปุ๋ย 20 ล้าน หลังถูกยัดเยียดให้เซ็นชื่อรับปุ๋ยฟรีในโครงการส่งเสริมอาชีพ ปี 2555-58 ของ จ.บุรีรัมย์ ดำเนินการโดย อบจ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเกิดปัญหากลับปัดให้เกษตรกรรับผิดชอบ แฉทั้งจังหวัดมีกลุ่มเกษตรกรเซ็นรับปุ๋ย 337 กลุ่ม รวมกว่า 200 ล้านบาท คาดถูกทยอยฟ้องอ่วม

วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนจาก 2 อำเภอ มี อ.โนนสุวรรณ และ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 คน ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ให้ช่วยเหลือ หลังจากได้ถูก “ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทขายปุ๋ยฟ้องร้องเรียกเงินค่าปุ๋ย รวมทั้ง 2 อำเภอ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากทางจังหวัดบุรีรัมย์มีโครงการส่งเสริมอาชีพและจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ให้กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนทั่วทั้งจังหวัด โดยแจ้งเกษตรกรว่าเป็นการนำปุ๋ยมาแจกจ่ายให้สมาชิกฟรี ซึ่งทาง อบจ.บุรีรัมย์เป็นผู้ทำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่ออนุมัติโครงการระหว่างปี 2555-58 ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดปัญหา

กระทั่งเดือน ต.ค. 2558 ทางบริษัทได้ส่งหนังสือมาทวงถามค่าปุ๋ยกับกลุ่มเกษตรกร โดยอ้างว่าได้สั่งซื้อปุ๋ยตามจำนวนใบสั่งซื้อตามเอกสารที่ได้เซ็นไป สร้างความตกใจให้แก่เกษตรกรและทางกลุ่มเป็นอย่างมาก จึงได้สอบถามไปยัง อบจ.บุรีรัมย์ จนทราบว่าโครงการยังไม่ได้รับการอนุมัติเงินงบประมาณ เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งชะลอโครงการฯ เพราะสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทบทวนการดำเนินโครงการดังกล่าว

แต่ทาง อบจ. รวมถึงเกษตรอำเภอที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการและทางบริษัท ไม่ได้แจ้งให้เกษตรกรรับทราบแต่อย่างใด แต่กลับมีเจ้าหน้าที่บางคนไปยัดเยียดให้เกษตรกรลงชื่อในใบสั่งซื้อ และใบรับสินค้าโดยไม่แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบ

ด้วยความที่เกษตรกรเห็นว่าเป็นโครงการของรัฐและทำต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว จึงไม่ได้เอะใจหรือทักท้วงอะไร กระทั่งมาถูกทางบริษัทฟ้องร้องเรียกค่าปุ๋ย แต่หน่วยงานรัฐที่ดูแลรับผิดชอบโครงการฯ กลับปัดความรับผิดชอบให้เกษตรกรโดยไม่ช่วยเหลือใดๆ

นางดวงพร แหวนเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านโคกกาง ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตัวแทนเกษตรกรที่มาร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม และอัยการจังหวัดในครั้งนี้เพราะต้องการให้หาแนวทางช่วยเหลือ เพราะในวันที่ 11 ก.ย.จะถึงวันที่ศาลนัดพิจารณาคดีแล้ว หากศาลตัดสินให้เกษตรกรต้องจ่ายเงินค่าปุ๋ยให้บริษัทตามที่ฟ้องร้อง เกษตรกรไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาจ่ายเพราะเป็นจำนวนเงินสูงมาก

ทั้งมองว่าปัญหาที่เกิดไม่ได้เกิดจากเกษตรกร แต่เกิดจากการจงใจปกปิดข้อเท็จจริงของหน่วยงานรัฐที่ไม่แจ้งให้กลุ่มเกษตรกรทราบ และปล่อยให้เกษตรกรต้องกลายเป็นแพะ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวบุคคลที่เป็นต้นตอก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย แก่เกษตรกรมาลงโทษด้วย

ด้าน นายธนากร จีนกลาง ประธานกลุ่มวิสาหกิจฐานเกษตรกรยางพารา กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่ามีเกษตรกรที่ได้รับปุ๋ยในโครงการดังกล่าวทั้ง 23 อำเภอ รวม 337 กลุ่ม คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท แต่เบื้องต้นที่ถูกฟ้องเรียกเงินค่าปุ๋ยแล้ว 3 อำเภอ คือ อ.โนนสุวรรณ หนองหงส์ และ อ.พลับพลาชัย ส่วนที่เหลือคาดว่าน่าจะถูกทยอยฟ้องเช่นกัน

จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้รู้กฎหมายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะกรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเกษตรกรเป็นผู้กระทำ แต่เกิดจากหน่วยงานรัฐที่ปกปิดข้อเท็จจริงปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วผลักภาระความรับผิดชอบแก่เกษตรกร เพราะหากเกษตรกรทราบว่าจะเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นคงไม่มีใครต้องการปุ๋ยที่ถูกยัดเยียดให้





กำลังโหลดความคิดเห็น