เกษตรฯ ร้อง ยธ. คดี จนท.บุรีรัมย์โกง แต่ไม่คืบ

เMGR Online - เกษตรกรบุรีรัมย์ร้อง กระทรวงยุติธรรม คดีฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นฉ้อโกง แต่คดีไม่คืบ

วันนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายธนากร จีนกลาง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรยางพารา อ.โนนสุวรรณ พร้อมเกษตรกรผู้เสียหายในพื้นที่ อ.โนนสุวรรณ และ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ร่วม 20 ราย เดินทางร้องทุกข์ต่อนายธวัชชัย ไทยเขียว และ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังทำพยานหลักฐานเป็นเท็จและปุ๋ยไม่ได้คุณภาพตามที่ระบุในโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์

นายธนากรกล่าวว่า สืบเนื่องจากเดือน พ.ค. 2558 เจ้าหน้าที่เกษตรกรได้เรียกประชุมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร แจ้งว่ามีโครงการอุดหนุนเงินให้เพื่อจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ตามโครงการส่งเสริมอาชีพคนบุรีรัมย์ปี 2555-2558 และโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ปี 2555 และแจกจ่ายให้สมาชิกเป็นการให้เปล่าดังเช่นทุกปี จำนวนสมาชิก 2,000 ครอบครัว ก่อนทำสัญญาส่งต่อ อบจ.บุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดอนุมัติโครงการดังกล่าว แต่ต่อมาเกิดปัญหาขึ้นเกี่ยวกับสัญญาสั่งซื้อปุ๋ยกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดีสิงห์ทวีโชค โดยไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ทรัพย์สิน คือ เงินค่าปุ๋ยจากกลุ่มเกษตรกรที่ลงชื่อในเอกสารใบสั่งซื้อและรับสินค้า รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ อบจ.บุรีรัมย์ บางรายเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ช่วงกลางปี 2559 ที่ผ่านมา เคยได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก่อนส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่้เกี่ยวข้องตรวจสอบแต่ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้แต่อย่างใด

นายธนากรกล่าวอีกว่า กลุ่มเกษตรกรจึงแปลกใจว่าทำไมไม่มีการจัดหาทนายความให้ทั้งๆ ที่ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมมแล้วหลายเดือน กระทั่งวันนี้กลุ่มผู้เสียหายเดินทางมา กระทรวงยุติธรรม เพื่อเรียกร้องความช่วยเหลือให้จัดหาทนายจากส่วนกลางเพราะไม่มีความมั่นใจทนายความในจังหวัด อีกทั้งขณะนี้มีคดีเกี่ยวข้องกับเกษตรกรอีก 5 อำเภอที่ประสบปัญหาและต้องเข้ากระบวนการทางศาลแต่ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐมาให้ความช่วยเหลือและคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องคดีดังกล่าวเลย

นายธวัชชัยกล่าวว่า ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เสียหายเดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือต่อกระทรวงยุติธรรม ทั้งหมด 88 กลุ่ม 5 อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตนในฐานะเลขานุการกองทุนยุติธรรมพร้อมอนุมัติแต่ขอตรวจสอบรายละเอียดข้อระเบียบและสิทธิเงื่อนไขก่อน รวมทั้ง กลุ่มเกษตรกรได้ร้องขอทนายความจากส่วนกลางเนื่องจากไม่มั่นใจทนายความในท้องที่

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎีเปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่ช่วยส่งข้อมูลให้กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ พร้อมส่งข้อมูลไปให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณาเร่งรัดการช่วยเหลือเพราะมีอีกหลายคดีเกิดขึ้นในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมมีความตั้งใจดูแลช่วยเหลือประชาชนไมได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด