ศูนย์ข่าวศรีราชา - เผยผลประกอบการท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2559 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทั้งของไทย และทั่วโลกจะซบเซา คาดปริมาณสินค้า และตู้สินค้าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณจะเติบโตสูงกว่าปีก่อน ขณะที่ยอดการส่งออกรถยนต์ผ่านท่ามีมากแล้วเกือบ 8 แสนคัน
วันนี้ (27 ก.ค.) นายชุนณ์ลพัทธ์ ศรีภาเพลิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบริหารงานทั่วไป ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถิติผลการดำเนินงานของท่าเรือแหลมฉบัง ในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558-พฤษภาคม 2559) ว่า ในแง่ของจำนวนเรือเทียบท่า (เที่ยว) พบว่า มีทั้งเรือตู้สินค้า เรือสินค้าทั่วไป เรือโดยสาร เรือ RO-RO เรือลำเลียง รวมจำนวนทั้งสิ้น 8,290 เที่ยว เติบโตใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ปริมาณสินค้า (เมตริกตัน) พบว่า สินค้าทั่วไปทั้งขาเข้าและออกมีจำนวนทั้งสิ้น 3,013,501.08 เมตริกตัน ส่วนสินค้าบรรจุตู้ทั้งขาเข้าและออก รวมทั้งสินค้าบรรจุตู้ถ่ายลำ มีจำนวน 48,240,935.85 เมตริกตัน เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน
นายชุนณ์ลพัทธ์ ยังเผยอีกว่า ในส่วนของจำนวนตู้สินค้า (ทีอียู) ทั้งตู้สินค้าขาเข้าและออก รวมทั้งตู้สินค้าถ่ายลำ มีจำนวนรวมแล้วกว่า 4.63 ล้านทีอียู ขณะที่ตลอดทั้งปี 2558 มีจำนวนตู้สินค้ารวมกว่า 6.78 ล้านทีอียู และในปี 2557 มีจำนวนตู้สินค้า 6.4 ล้านทีอียู จึงเชื่อว่าในปีนี้จำนวนตู้สินค้าเมื่อถึงสิ้นปีจะมีจำนวนรวมใกล้เคียง 7 ล้านทีอียูอย่างแน่นอน
“ที่น่าสนใจคือ จำนวนรถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทย และส่งออกไปยังต่างประเทศผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ที่พบว่า ทั้งรถยนต์นำเข้า และส่งออกมีปริมาณรวมถึง 828,987 คัน คือ เป็นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 788,860 คัน โดยกว่า 91% ของโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศจะส่งออกผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนรถยนต์นำเข้ามีจำนวน 40,127 คัน เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการรถยนต์คันแรก แต่การส่งออกก็ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง” นายชุนณ์ลพัทธ์ กล่าว