อุบลราชธานี - โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี มอบเครื่องช่วยหายใจ พร้อมอบรมเพิ่มศักยภาพเครือข่ายดูแลผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจที่บ้านตลอดชีวิต โดยมีผู้ป่วยที่โรงพยาบาลให้การช่วยเหลือไปแล้วรวม 19 ราย
ที่ห้องประชุมทับทิมสยาม 3 โรงแรมสุนีย์แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 เป็นประธานเปิดโครงการ “พัฒนาศักยภาพเครือข่ายในการดูแลผู้ป่วยเด็กระบบหายใจเรื้อรังและผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน (Home Ventilator) ประจำปี 2559” โดยมี นายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ และนายแพทย์พียรศักดิ์ แซ่หว่อง กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ ประธานโครงการให้การต้อนรับ
นายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ระดับตติยภูมิขั้นสูง มีพันธกิจในการให้บริการทางการแพทย์แบบองค์รวม รวมทั้งระบบส่งต่อที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล โดยเน้นสนันสนุนระดับทุติยภูมิ และปฐมภูมิ
โดยจากสถิติ ปี 2556 2557 และ 2558 มีผู้ป่วยเด็กโรคระบบหายใจเรื้อรังเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาล จำนวน 217 ราย 231 ราย และ 238 รายตามลำดับ ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยเด็กโรคระบบหายใจเรื้อรัง และผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ไม่สามารถหายใจเองได้ ต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจไปตลอดชีวิตจำนวนหลายราย
ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะไม่สามารถกลับไปอยู่บ้านได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป
“แผนกกุมารแพทย์โรคระบบหายใจ โดย นายแพทย์เพียรศักดิ์ แซ่หว่อง จึงได้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนเด็กป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง” เพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจให้ผู้ป่วยนำกลับไปใช้ที่บ้าน จำนวน 19 ราย
และผู้ป่วยเด็กกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลตนเองต่อเนื่องที่บ้าน เช่น การดูแลท่อหลอดลมคอ การดูดเสมหะ การให้อาหารทางสายยาง และการดูแลเครื่องช่วยหายใจ ดังนั้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทีมสหวิชาชีพ และชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล โดยทีมสหวิชาชีพต้องมีความรู้ และทักษะในการดูแลผู้ป่วย เช่น การสังเกตอาการ การช่วยเหลือเบื้องต้น ตลอดจนการให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแล เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตภาพ ลดค่าใช้จ่ายใช้ในการเดินทาง และค่ารักษาพยาบาล
จึงได้จัดให้มีการประชุมเชิงวิชาการแก่ทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุคลากรจากองค์กรต่างๆ เช่น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้ป่วย และครอบครัวกว่า 400 คน พร้อมมีการมอบเครื่องช่วยหายใจให้แก่ผู้ป่วยในครั้งนี้ด้วย