ลำปาง - ตำรวจลำปาง รวบตัวแก๊งขโมยนมผงเด็กตามห้างฯ และร้านค้า สารภาพทำเดินสายลักขโมยมาแล้วทั่วประเทศ อ้างรับจ้างขโมยเพื่อนำเงินมาจ่ายค่างวดรถ
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองลำปาง พ.ต.อ.สมพงษ์ สวนคร้ามดี รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง และ พ.ต.ต.พิรชัช ปากเพรียว สว.สส.สภ.เมืองลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำตัวผู้ต้องหา คือ นายฤชุพัฒน์ ผลบุญ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 916/6 พระราม 2 ซ.60 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. พร้อมรถยนต์ของกลางยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน 5 กจ 2654 กทม. มาแถลงข่าว หลังกระทำผิดร่วมกันลักทรัพย์ (นมผงเด็ก) มาแล้วทั่วประเทศ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายขโมยนมผงเด็กภายในห้างสรรพสินค้าล้านทองพลาซ่า ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ชัดเจน โดยพบว่า ได้ลงมือก่อเหตุกันหลายคนซึ่งจะทำทีเข้าไปเลือกซื้อสินค้าภายในห้างฯ จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็จะขโมยนมผงใส่กระเป๋าสะพายแล้วหลบหนีไป โดยทราบว่า นมผงได้หายไป จำนวน 4 กระป๋อง และได้ไปก่อเหตุที่ร้านเบตงมินิมาร์ท ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นมผงไป จำนวน 5 กล่อง ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดกว่า 9,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอื่นๆ จนทราบยานพาหนะของคนร้ายจึงได้ออกหมายจับจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน อยู่ระหว่างหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายจับแล้ว คือ นายศศิพล ภู่เอม นายทวีศักดิ์ มาสุทธิ์ และนายวินัย สมบัติวงษ์ ซึ่งมีที่พักอาศัยในเขต จ.นนทบุรี ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังอ้างว่าตนเองได้รับค่าจ้างวันละ 5,000 บาท จาก นายศศิพล หรือโก๊ะ เพื่อใช้รถยนต์ 4 ประตูของตนเองร่วมกับกลุ่มเพื่อนออกตระเวนลักทรัพย์ตามจังหวัดต่างๆ โดยเน้นเฉพาะนมผงเด็ก ซึ่งได้ลงมือก่อเหตุมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี โดยจะก่อเหตุตามห้างร้านต่างจังหวัดเพราะสามารถลงมือก่อเหตุได้ง่าย และเห็นว่าราคาน้อยจึงไม่แจ้งความ เมื่อได้ของมาแล้วก็จะนำลงไปให้ นายศศิพล หรือโก๊ะ ที่กรุงเทพฯ คาดว่าน่าจะนำไปขายต่อ โดยผู้ต้องหายังได้อ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุนั้นต้องการเงินไปส่งผ่อนค่ารถคันดังกล่าวที่ต้องจ่ายค่างวดงวดละ 1 หมื่นกว่าบาทต่อเดือน
พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขบวนการดังกล่าวได้ตระเวนก่อเหตุมาแล้วทั่วประเทศ โดยช่วงต้นเดือนจะก่อเหตุที่ภาคเหนือ ช่วงกลางเดือนจะไปภาคอีสาน และปลายเดือนจะลงไปที่ภาคใต้ ซึ่งก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยครั้งนี้ขึ้นมาภาคเหนือ ได้เริ่มต้นก่อเหตุที่ห้างใน จ.พิษณุโลก และ จ.อุตรดิตถ์ ก่อนจะไปที่ จ.แพร่ และมาที่ จ.ลำปาง แล้วขึ้นไป จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ รวมของกลางซึ่งเป็นนมผงยี่ห้อต่างๆ ที่มีราคาแพงจำนวนกว่า 70 กระป๋อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 70,000 บาท
ด้าน นายเสรี เจนวานิชกุล เจ้าของห้างสรรพสินค้าล้านทองพลาซ่า ผู้เสียหาย และได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาห้างของตนเองได้ถูกกลุ่มคนร้ายเหล่านี้เข้ามาลักขโมยนมผงเด็กมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกพนักงานมาพบเห็นก่อน แต่คนร้ายได้บอกว่าจะกลับไปเอาเงินในรถแต่ก็หลบหนีหายไป ก่อนจะมาลงมือก่อเหตุซ้ำอีก ทั้งนี้ ยังพบว่ามีสุราต่างประเทศหายไปจำนวน 12 ขวด คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 บาท เชื่อว่าเป็นคนร้ายแก๊งเดียวกันนี้ ถึงแม้ทางห้างจะมีมาตรการตรวจเข้มอย่างดีแล้ว แต่กลุ่มคนร้ายมักจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อเหตุแบบใหม่ๆ มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ผกก.สภ.เมืองลำปาง ยังได้ฝากแจ้งถึงผู้เสียหายจังหวัดอื่นๆ ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพแล้ว หรือพบว่ามีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวที่ได้ตระเวนไปลักทรัพย์โดยเฉพาะนมผงเด็ก สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อจะได้ทำการอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีอื่นๆ ต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีซึ่งได้ออกหมายจับเอาไว้แล้ว ขอให้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่