ตำรวจเผยคดีฆ่าเปลือยสาวไทย ริมถนนย่านซอยสะแกงาม บางขุนเทียน พบกล้องวงจรปิดจับภาพได้เป็นชาวพม่าเข้าที่เกิดเหตุพร้อมคนตาย แต่ขาออกเหลือคนเดียว พยานยันเห็นผู้ต้องสงสัยกลับที่พัก พร้อมบาดแผล - รอยเลือด แถมบอกมีเรื่องกับคนไทย ศาลฯออกหมายจับข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา กำลังติดตามล่าตัวดำเนินคดี
จากกรณี เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้ของมีคมทำร้าย น.ส.ทุเรียน หรือ เมย์ รอดคำทุย อายุ 24 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี พนักงานรายวันแผนกฉีดพลาสติกของบริษัท วนวิทย์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อฮาตาริ จนเสียชีวิต สภาพศพเปลือยกายจมกองเลือด สวมเพียงยกทรงสีชมพู โดยหลังเกิดเหตุชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และ สน.แสมดำ ได้ลงพื้นที่หาเบาะแส จนทราบว่า หลังผู้เสียชีวิตเลิกงานเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 ก.ค. ได้มี นายเนมิน อายุ 28 ปี ชาวพม่า คนงานบริษัทเดียวกัน ขี่ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ออกจากที่ทำงาน โดยมี น.ส.ทุเรียน ซ้อนท้าย ไปนั่งดื่มเบียร์กันที่ร้านขายของชำ ก่อนออกไปจากร้าน แล้วมีผู้พบ น.ส.ทุเรียน กลายเป็นศพถูกฆ่าเปลือย ส่วนสาเหตุคาดว่า น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายเคยมีปากเสียงกับ น.ส.เซน ชาวพม่า แฟนสาวของนายเนมิน และกำลังตั้งท้องแก่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ เหตุเกิดบริเวณท้ายซอยสะแกงาม 26 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 9 ก.ค. พ.ต.อ.สำเริง ผลรอด ผกก.สน.แสมดำ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบหลักฐานเพียงของฝ่ายผู้ตาย ส่วนฝ่ายผู้ต้องสงสัยไม่มี จึงต้องรอผลชันสูตรจากทีมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ว่า มีการกระทำชำเราหรือไม่ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เบาะแสจากเสื้อผู้ตายที่เป็นบริษัทแห่งหนึ่ง เลยขอความร่วมมือฝ่ายบุคคลบริษัท มาตรวจสอบว่าใช่พนักงานหรือไม่ ผลคือใช่ แต่เป็นพนักงานขั้นทดลองงาน เพิ่งเข้าไม่ถึงเดือน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเวลาเข้าออกงาน พบว่า มีพยานเห็นผู้ตายซึ่งมีแฟนหนุ่มอยู่แล้ว (แต่ทำงานย่านบางกอกน้อย อยู่คนละที่) ได้ออกจากบริษัทตอน 20.00 น. วันที่ 7 ก.ค. โดยมี นายเนมิน ชาวพม่า เพื่อนร่วมงาน ซึ่งภรรยาท้องแก่ ที่เป็นผู้ต้องสงสัย ออกมาก่อนที่ผู้ตายจะตามมา จากนั้น นายเนมิน ได้ขี่จยย. พา น.ส.ทุเรียน ซ้อนท้าย ไปจอดที่ร้านขายของชำ ซอยสะแกงาม 30 พอถึงร้านขายของชำ ทั้งสองได้ซื้อเบียร์มานั่งดื่มกัน 6 ขวด ส่วนใหญ่นายเนมินเป็นคนดื่ม ก่อนพากันออกจากร้าน โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าเลียบด่วนพระประแดง แล้วเข้าท้ายซอยสะแกงาม 26 ที่เป็นจุดเกิดเหตุ โดยกล้องวงจรปิดที่อยู่ในซอย สามารถจับภาพขณะนายเนมิน ขี่ จยย. พา น.ส.ทุเรียน เข้าท้ายซอยดังกล่าวได้ ก่อนจะขี่ จยย. ออกไป แต่ขาออก นายเนมิน กลับออกไปแค่คนเดียว ชุดสืบสวนจึงค่อนข้างมั่นใจว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายเนมิน ส่วนเรื่องที่ นายเนมิน หวังกระทำชำเราผู้ตายหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ เพราะต้องรอแพทย์ยืนยันผลชันสูตรก่อน
พ.ต.อ.สำเริง เปิดเผยต่อไปว่า หลังจากได้เบาะแสคนร้าย ทาง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมเพื่อคลี่คลายคดี และจัดกำลังลงพื้นที่หาเบาะแส จนทราบห้องพักของนายเนมิน ซึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จากการสอบถามผู้ให้เช่า ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 7 ก.ค. เห็น นายเนมิน มีผ้าพันแผลที่บริเวณมือซ้าย และมีรอยหยดเลือดที่รองเท้า เดินเข้าที่พัก อีกทั้งยังมีพยานยืนยันว่า นายเนมิน ได้บอกกับญาติ ว่า มีเรื่องกับคนไทยมา จึงจะรีบหนีกลับประเทศเมียนมา ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าและข้าวของหนีไปกับภรรยาที่ตั้งท้องแก่อยู่ ชุดสืบสวนเลยมั่นใจ ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ โดยเมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา ศาลอาญาธนบุรีได้ออกหมายจับ นายเนมิน ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแล้ว
ขณะนี้ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างไล่ล่าติดตามตัว อย่างไรก็ดี หากผลชันสูตรและหลักฐานยืนยันว่า ผู้ตายถูกกระทำชำเรา หรือ นายเนมิน ขโมยทรัพย์สินของผู้ตายไป ทางพนักงานสอบสวนก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ส่วนเรื่องเส้นทางหลบหนีนั้น ตอนนี้ยังไม่ขอยืนยันว่า นายเนมิน หนีออกประเทศเมียนมาไปแล้ว เพราะอาจย้อนกลับมาใกล้ที่เกิดเหตุได้ ตามคำที่ว่าที่ที่อันตรายที่สุดเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน จนขอศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ นายเนมิน ชาวพม่า ที่เป็นผู้ต้องสงสัย เลขที่ จ.438/2559 ลงวันที่ 9 ก.ค. 59 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยเป็นหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด และผลสอบสวนพยานแวดล้อม ที่ยืนยันว่า นายเนมิน และผู้ตาย ได้นั่งดื่มเบียร์กันสองคน ตั้งแต่เวลา 20.00 - 22.00 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนพบ น.ส.ทุเรียน กลายเป็นศพ อีกทั้งเมื่อตรวจสอบห้องพักของนายเนมิน ที่อยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ พบว่า ห้องล็อก เมื่อเข้าไปพบกางเกง รองเท้าเปื้อนเลือด และสลิปกดเงิน จำนวน 7,000 บาท อยู่ในห้อง พอสอบถามพ่อแม่ของนายเนมิน ก็ทราบว่า หลังเกิดเหตุ นายเนมิน ได้กลับไปหาพ่อแม่ตัวเอง โดยบอกว่า มีเรื่องและได้ใช้อาวุธมีดแทงคนไทย แต่ไม่รู้ว่าตายหรือไม่ จึงตัดสินใจจะพาภรรยาหนีกลับประเทศเมียนมา ทางพ่อแม่จึงนำ จยย. คันที่นายเนมินใช้ไปจอดซ่อนเจ้าหน้าที่ภายในซอยบางแค 6 ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปนำ จยย. ดังกล่าวมาตรวจสอบที่โรงพัก ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะรวบรวมคำให้การพยานและหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับได้ในที่สุด