บุรีรัมย์ - มทบ.26 บุรีรัมย์สนธิกำลังหลายฝ่ายบุกค้นเต็นท์รถมือสองรายใหญ่ หลังประชาชนร่วม 10 รายร้องศูนย์ดำรงธรรมว่าถูกฉ้อโกงหลอกลวงจากการซื้อขายรถ เบื้องต้นพบรถหลายคันหมายเลขเครื่องไม่ตรงกับคู่มือ ทั้งไม่ติดป้ายแสดงรายการให้ลูกค้าทราบส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกอายัดไว้ตรวจสอบ
วันนี้ (23 มิ.ย. 59) พ.อ.นรินทร์ นิตยสุทธิ์ หัวหน้ากองยุทธการมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายชุมพล ภูผานิล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, นายกฤษฎา มะลิซ้อน หัวหน้ากลุ่มวิชาการ ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์, นายไชยวัฒน์ มหามาตย์ หัวหน้าฝ่ายปราบปราม สรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ “สมบูรณ์ยนตรการสตึก” ตั้งอยู่ ม.19 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีรถมือสองมากกว่า 200 คัน หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่าเต็นท์รถมือสองดังกล่าว มีพฤติกรรมหลอกลวงฉ้อโกงเอารัดเอาเปรียบประชาชนที่มาซื้อขายรถหลายราย ในจำนวนนี้ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร่วม 10 ราย
โดยพฤติกรรมการหลอกลวงของเต็นท์รถดังกล่าวจะมีหลายรูปแบบ เช่น หลอกนำรถยนต์ที่ไม่ถูกต้องมาจำหน่าย หมายเลขตัวถัง ทะเบียนไม่ตรงกับคู่มือรถมาขาย เชื่อว่าน่าจะมีการดัดแปลงตัวถัง เครื่องยนต์ หรือส่วนประกอบอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้
มีบางรายที่ตั้งใจนำรถมาขาย แต่ทางเต็นท์กลับหลอกล่อให้ตีเทิร์นแทน โดยใช้อุบายหลอกให้ลูกค้าเลือกเอารถมือสองคันอื่นในเต็นท์แทน แล้วจะจ่ายส่วนต่างที่รับซื้อรถให้ เมื่อลูกค้าหลงเชื่อก็ให้ทำสัญญาซื้อขาย จากนั้นให้ลูกค้านำรถคันที่ตกลงตีเทิร์นไปทดลองใช้ หากไม่พอใจก็ให้นำมาเปลี่ยนคืน แต่เมื่อลูกค้านำรถไปลองแล้วไม่พอใจจึงนำมาขอเปลี่ยนกับรถคันเดิม ทางเต็นท์กลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าได้ขายรถไปแล้ว หากอยากได้รถคืนต้องจ่ายเงินค่าซื้อคืนให้เต็นท์ในราคา 50,000-100,000 บาท
สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เพราะนอกจากจะไม่ได้รถแล้วยังต้องมาเสียเงินให้เต็นท์อีก ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบอยู่นั้น มีประชาชนทั้งในและต่างจังหวัดที่ถูกหลอกเดินทางเข้ามาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่อีกหลายราย
นายกฤษฎา มะลิซ้อน หัวหน้ากลุ่มวิชาการ ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีรถหลายคันที่หมายเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ ไม่ตรงกับคู่มือ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งต้องให้ผู้ประกอบการนำหลักฐานมายืนยัน ทั้งยังพบว่าไม่มีการแสดงรายการสินค้า หรือพนักงานไม่ได้บอกข้อมูลจริงเกี่ยวกับรถให้ลูกค้าทราบ แสดงถึงเจตนาไม่บริสุทธิ์ เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้งตัวรถและเอกสารคู่มือรถทุกคันว่าเป็นรถที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร หากได้มาโดยไม่ถูกต้องจะดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอน
ด้าน พ.อ.นรินทร์ นิตยสุทธิ์ หัวหน้ากองยุทธการ มทบ.26 กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดว่ามีประชาชนร้องเรียนขอความเป็นธรรมถูกเต็นท์รถดังกล่าวมีพฤติกรรมฉ้อโกงซื้อขายรถยนต์ จึงได้สนธิกำลังกับหลายฝ่ายเข้าทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทั้งตัวรถและเอกสารพบความผิดปกติหลายอย่าง ซึ่งจะได้ทำบันทึกและอายัดรถเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบเข้าข่ายฐานความผิดไหนก็จะประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเอาผิด พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่ต้องการจะซื้อรถมือสองควรตรวจสอบให้ละเอียดอย่าหลงเชื่อง่ายๆ เพราะอาจจะถูกหลอกลวงทำให้สูญเสียทั้งเงินและรถยนต์ได้
ขณะที่นายสมบูรณ์ ตือประโคน หรือเสี่ยสมบูรณ์ เจ้าของเต็นท์รถมือสองดังกล่าว ออกมายืนยันว่า ไม่ได้หลอกลวงซื้อขายรถตามที่ถูกกล่าวหา การซื้อขายมีการทำสัญญากันอย่างถูกต้อง และมีเอกสารหลักฐานยืนยัน ซึ่งพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ