กาฬสินธุ์ - พ่อค้าขายส่งน้ำดื่มในเขตอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งความตำรวจเอาผิดเต็นท์รถมือสองอีกราย หลังตรวจพบรถยนต์ที่ซื้อมีร่องรอยตัดต่อแชสซีส์ ระบุเป็นเต็นท์รถเดียวกับผู้เสียหายรายแรกที่เคยร้องทุกข์ ยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ความคืบหน้าคดีตัดต่อแชสซีส์รถยนต์ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้เสียหายร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ซึ่งกำลังทหารโดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ ตำรวจชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบเต็นท์รถมือสอง “เพชรยานยนต์” ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นจุดจำหน่ายรถผิดกฎหมายนั้น
ล่าสุดวันนี้ (23 มี.ค. 59) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายหัด จอดนอก อายุ 45 ปี และ นางฉวีวรรณ จอดนอก อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านโคก ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ อารีย์เอื้อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยได้ร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อเต็นท์รถมือสอง เพชรยานยนต์ สาขากาฬสินธุ์ เลขที่ 40/9-12 ถนนถีนานนท์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเชื่อว่ารถยนต์ที่ตนซื้อมาเมื่อปี 2556 เป็นรถยนต์ตัดต่อแชสซีส์
ทั้งนี้ นายหัด ผู้เสียหาย ระบุว่า หลังจากที่เห็นข่าวจึงเอะใจตรวจสอบรถยนต์ของตนที่ซื้อมาจากเต็นท์รถดังกล่าว โดยวางเงินดาวน์ 10,000 บาท ผ่อนส่ง 72 งวด เดือนละเกือบ 5,000 บาท เป็นเวลาเกือบ 4 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ขนส่งจังหวัดขอนแก่นก็ได้ปฏิเสธการตรวจสภาพรถยนต์เพราะผิดกฎหมาย จึงได้ไปปรึกษาตำรวจชุดป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์จนมารู้ว่ารถยนต์ของตนผิดกฎหมาย จึงเข้ามาแจ้งความเอาผิดเต็นท์รถดังกล่าว
ภายหลังจากร้องทุกข์ ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชัชชัย ไหมวันทา หัวหน้าชุดป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่จะแจ้งเรื่องไปยังเจ้าของเต็นท์รถดังกล่าว เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ตำรวจได้เตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน และจะติดต่อไปยังขนส่งจังหวัดสกลนคร เพื่อดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ
พ.ต.ท.ชัชชัย ไหมวันทา หน.ชุดป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายทยอยเข้ามาร้องทุกข์เพิ่มขึ้น ซึ่งรายนี้เป็นรายที่สอง จะประสานไปยังขนส่งจังหวัดสกลนครเพื่อแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ เพราะรถทั้งสองคันตรวจสอบเบื้องต้นเป็นรถที่ผิดกฎหมาย มีการตัดต่อแชสซีส์ เป็นคำถามกับขนส่งสกลนครว่าตรวจสภาพผ่านมาได้อย่างไร เพราะผู้ลงนามให้ผ่านคือขนส่งจังหวัดสกลนคร จะต้องตอบคำถามให้สังคมรับรู้
โดยเฉพาะในกรณีนี้จะต้องตรวจสอบว่ามีปัญหาในลักษณะนี้กี่คัน จึงขอให้ประชาชนที่สงสัยให้นำรถเข้ามายังพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ตรวจสอบ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ถึงที่สุดตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ คสช.
ด้าน พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นการช่วยเหลือประชาชน เพราะการซื้อรถยนต์ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านเต็นท์รถมือสอง ต่อไปจะต้องตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ซึ่งได้กำชับให้ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลในเรื่องนี้ ดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตรวจสอบเครือข่ายระหว่างเต็นท์รถต่างๆ กับเจ้าหน้าที่ขนส่งเพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป