xs
xsm
sm
md
lg

“วัดป่าหลวงตาบัวฯ” ประสานทนายชื่อดังเตรียมฟ้องกรมอุทยานฯ ให้ส่งคืนเสือโคร่ง 147 กลับวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ทนายความวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน กาญจนบุรี เผยทาง “วัดเสือ” ประสานทนายความชื่อดังเพื่อเตรียมฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ส่งคืนเสือโคร่ง 147 ตัว กลับวัดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารทั้งหมด และรอคำตอบตอบจากทนายความคนดังกล่าวว่าจะรับทำคดีให้แก่ทางวัดหรือไม่

เมื่อเวลา 17.20 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อ.ไทรดยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางวัด และมูลนิธิฯ เตรียมที่จะฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยตอนนี้ได้รวบรวมเอกสาร และหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่เกี่ยวกับการขนย้ายเสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัว ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฝากให้ทางวัดเลี้ยงดูมาตั้งแต่สมัยยังมีเสืออยู่แค่ 7 ตัว เมื่อปี 2544 โดยเอกสาร และหลักฐานต่างๆ ได้มอบให้แก่ทนายความชื่อดังระดับประเทศไปพิจารณาแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารทั้งหมด แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่า ทนายความคนดังกล่าวจะรับทำคดีให้แก่ทางวัดเสือหรือไม่ แต่เท่าที่ได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นคาดว่าคงจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

สำหรับการฟ้องกรมอุทยานฯ ครั้งนี้ ทางวัด และมูลนิธิฯ ได้นำเคล็ดคดีตัวอย่างมาจากคดีรื้อบาร์เบียร์ บริเวณสุขุมวิทสแควร์ ซอยสุขุมวิท 10 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย เมื่อปี 2546 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นลักษณะคล้ายกับกรณีการขนย้ายเสือโคร่งของกลางออกไปจากวัดเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตน พร้อมด้วย นายศิริ หวังบุญเกิด อดีตกรรมการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอนุกรรมการสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เป็นตัวแทนพระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

นายสายหยุด เพ็งบุญชู เปิดเผยต่อว่า สำหรับประเด็นการขอความเป็นธรรม และร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถึงประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ให้พิจารณาว่า การฝากทรัพย์เป็นนิติกรรมทางแพ่งที่สมบูรณ์ แต่กรมอุทยานฯ ยังไม่มีการฟ้องเอาคืน การดำเนินการใช้กำลังเจ้าหน้าที่มายึดเสือโคร่ง และขนย้ายออกไปโดยไม่มีคำสั่งศาลนั้นเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ เนื่องจากสัตว์ที่อยู่ในวัดดังกล่าวนั้นเป็นของสำนักงานป่าไม้ อำเภอไทรโยค เป็นผู้ฝากเลี้ยงไว้

โดยทางวัด และสำนักงานป่าไม้ อำเภอไทรโยค ได้มีการทำบันทึกการฝากเลี้ยงสัตว์ป่าไว้ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2544 โดยมอบสัตว์ป่าชนิดต่างๆ จำนวน 274 ตัว ให้วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ดูแล เห็นได้ว่าสัตว์ต่างๆ ในวัดนี้เป็นทรัพย์สินของหน่วยงานดังกล่าวเองที่มอบให้วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ดูแล ไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครองที่วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ลักลอบนำมาเลี้ยงไว้เองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะทำให้สัตว์ในวัดกลายเป็นของผิดกฎหมายที่ทางกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะนำมาตรวจยึดในทันทีการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นการทำการที่ไม่เหมาะสม และไม่บังควร เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ

“อีกประเด็น คือ บริษัท ไทเกอร์ เทมเพิล จำกัด ได้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งสวนสัตว์สาธารณะ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 เพื่อมาแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการครอบครองเสือโคร่งในระยะยาว การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เป็นการปิดกั้นโอกาสของบริษัท ไทเกอร์ เทมเพิล จำกัด หรือไม่ เมื่อบริษัท ไทเกอร์ เทมเพิล จำกัด มีใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินการสวนสัตว์สาธารณะแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่า มีความพร้อม และความชอบธรรมในการดูแล สัตว์ต่างๆที่อยู่ในวัด ไม่ว่าเป็นความพร้อมในด้านต่างๆ ในการเลี้ยงดู ดูแลรักษาสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณวัด ซึ่งการดูแลเลี้ยงดูสัตว์ต่างๆ เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี” นายสายหยุด เผย
กำลังโหลดความคิดเห็น