ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือชุดพญาเสือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกตรวจ และอายัดช้างสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองในสวนสัตว์หัวหินซู เพิ่มเติม พร้อมขนย้ายสัตว์ทั้งหมดออกไปเพื่อทำการตรวจสอบ
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือชุดพญาเสือ พร้อมด้วยนายนิธิ อาจสมรรถ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นอนุรักษ์บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน ตำรวจ ปทส. และเจ้าหน้าที่ทหารทหารชุดประสานงานพื้นที่หัวหิน ค่ายธนะรัชต์ เข้าทำการตรวจสอบสวนสัตว์หัวหินซู ตั้งอยู่ที่เลขที่ 369 ม.10 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยมี นายประกอบ ชำนาญกิจ อายุ 52 ปี ที่อยู่ 38/47 ซ.หมู่บ้านเขาน้อย ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ครอบครอง และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตสวนสัตว์ดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเพิ่งเข้าตรวจสอบ และอายัดลูกช้างป่า จำนวน 1 ตัว และสัตว์ป่าบางส่วนไว้ตรวจสอบแล้ว แล้วเมื่อวัน 28 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่า หลังจากที่ชุดพญาเสือได้เข้ามาตรวจสอบเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้อายัดสัตว์ป่าบางส่วนไว้ตรวจสอบ จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการครอบครองสัตว์ พบที่มาของสัตว์ป่าที่มีเพียงสำเนาใบคำขอ สป.1 แต่ไม่มีใบการตรวจสอบความถูกต้องของที่มาสัตว์ป่า หรือ สป.2 มาแสดง และยังไม่ตรงกับตั๋วรูปพรรณอีกด้วย
วันนี้จึงได้มาตรวจสอบซ้ำ พบว่า กรณีลูกช้าง 2 ตัว มีตั๋วรูปพรรณช้างไม่ตรงกันคือ ตั๋วรูปพรรณช้างระบุอายุช้าง 18 ปี แต่ช้างที่พบตัวแรกมีอายุไม่เกิน 4 ปี อีกตัวอายุไม่เกิน 10 ปื รวมทั้งมีสัตว์ป่าที่เพิ่มเติมนอกบัญชีจากที่ได้เคยตรวจสอบไว้ ส่วนที่อยู่ในบัญชีก็ไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ถึงการได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมาย เช่น อายุของสัตว์ป่า ที่แจ้งไว้ปี 2546 จนกระทั่งปี 2559 อายุอย่างน้อยต้อง 13 ปี แต่ที่ตรวจสอบพบว่าอายุน้อยกว่า 10 ปีทั้งหมด
ดังนั้น สามารถพิสูจน์ได้เบื้องต้นว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่จะอายัดสัตว์ป่าคุ้มครองทุกชนิด เช่น จระเข้ หมีหมา หมีควาย เสือโคร่ง รวมถึงสัตว์ป่าทุกตัวที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยจะขนย้ายไปยังสวนสัตว์ตามสถานีเพาะสัตว์ป่าอย่างหมีหมา หมีควายไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง สัตว์ปีกไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี เสือโคร่งไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และช้างป่าไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จ.ลำปาง โดยจะขนย้ายให้หมดภายในวันนี้
ทั้งนี้ การอายัดสัตว์ป่าจะยังไม่กระทบต่อใบอนุญาตที่ทางผู้ประกอบการได้รับตั้งแต่ปี 2553 ให้เปิดเป็นสวนสัตว์สาธารณะ การยกเลิกเป็นอำนาจของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แต่หากไม่มีสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย มีเพียงสัตว์นำเข้าจากต่างประเทศที่มีเอกสารถูกต้องก็สามารถดำเนินการเปิดสวนสัตว์ได้ ส่วนทางคดีก็ดำเนินไปตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเสือโคร่งที่จะขนย้ายนั้นคงต้องให้ทีมสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯ ยิงยาสลบก่อนถึงจะขนย้ายได้เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่นเดียวกับการเคลื่อนย้ายเสือที่วัดหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี