กาญจนบุรี - รองอธิบดีอุทยานแห่งชาติ นำกำลังเข้าจับเสือ “วัดป่าหลวงตาบัว” อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี วันที่ 2 ล่าสุดจับได้เสือแล้วทั้งหมด 40 ตัว ก่อนขนย้ายไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เผยนาทีระทึกเสือหลุดกลางดึก ประชันหน้า ผอ.สปฟ.ก่อนพากันวิ่งป่าราบเอาตัวรอด แต่โชคดีที่เสือเชื่อง เจ้าหน้าที่ระดมหาวุ่นทั้งคืนก่อนพบตัวกำลังตะปบหมูป่าอยู่ สัตวแพทย์ยิงยาสลบจับได้โดยละม่อม
วันนี้ (31 พ.ค.) ตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดย นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายศิริ อัคคะอัคร ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ (ผอ.สปฟ.) นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานฯ นายสุนทร ฉายวัฒนะ ผอ.ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ นายชาญวิทย์ กันยา นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.ร.29 พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.อ.ฐนิตพัฒน์ อุทะนุตนันท์ รอง ผบ.ร.29 นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง เจ้าหน้าที่ ตร.ปทส.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลัง 400 นาย ยังคงปักหลักอยู่ที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อทำการขนย้ายเสือโคร่งของกลางที่มีอยู่ภายในวัดดังกล่าว ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 แล้ว ที่คณะเจ้าหน้าที่ดำเนินการ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และคณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯ ที่ระดมมาจากทั่วประเทศเป็นกำลังหลักในการขนย้ายเสือ
โดยวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถขนย้ายเสือไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ได้แค่เพียง 7 ตัวเท่านั้น สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการล่าช้าเนื่องจากทางวัดฯ ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายใน จึงจำเป็นต้องเดินทางไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ได้หมายค้นจึงเข้าไปดำเนินการขนย้ายเสือที่มีอยู่ แต่ต้องพบกับอุปสรรคคือ เสือโคร่งที่นำมาบริการให้แก่นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณหุบเขา จำนวน 12 ตัว ไม่มีการล่ามโซ่ เสือโคร่งทั้งเดินวนเวียนอยู่ภายในได้อย่างอิสระ
นอกจากนี้ เสือโคร่งทุกตัวที่อยู่ภายในเกาะเสือก็เดินอยู่ตามคอกเลี้ยงขนาดใหญ่ได้อย่างอิสระเช่นกัน เนื่องจากไม่มีการล่ามโซ่เอาไว้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเกรงว่าผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะคณะสัตวแพทย์ที่มีหน้าที่ยิงยาสลบจะได้รับอันตราย อีกทั้งเกรงว่าเสือโคร่งจะได้รับอันตรายจากยาสลบเช่นกัน เนื่องจากพบว่า เสือแต่ละตัวได้กินอาหารไปก่อนแล้ว จึงต้องหยุดดำเนินการยิงยาสลบเสือที่อยู่ภายในเกาะเสือเอาไว้ก่อนชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามของเจ้าหน้าที่ก็ทำให้สามารถจับเสือได้ทั้งหมด 7 ตัว และมาในวันนี้ 31 พ.ค.ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถขนย้ายเสือได้แล้ว จำนวน 12 ตัว รวมทั้งสิ้น จำนวน 19 ตัว และยังคงมีการขนย้ายเสือได้อย่างต่อเนื่อง
ต่อมา เมื่อเวลา 11.00 น. นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มาแถลงข่าวถึงความคืบหน้า และอุปสรรคต่างๆ ที่พบ ที่ศูนย์บัญชาการชั่วคราวภายในศาลาหน้าประตูทางเข้าวัด ริมถนนสาย 323 หมู่ 5 ต.สิง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี การแถลงข่าวในครั้งนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีเข้าร่วมด้วย เนื่องจาก นายอดิศร ได้สั่งการให้ปิดประตูทางเข้าวัดเพื่อกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไป ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว มาอธิบายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าใจ โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุระทึกขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่นายศิริ อัคคะอัคร ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ (ผอ.สปฟ.) กำลังเดินสำรวจความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบหุบเสือ พร้อมกับลูกน้อง ปรากฏว่า มีเสือหลุดออกมาจากหุบเสือมายืนประชันหน้ากับ นายศิริ อย่างจัง ทุกคนถึงกับหน้าซีด และเข่าอ่อนไปตามๆ กัน หลังจากตั้งสติได้ นายศิริ พร้อมกับลูกน้องต่างพร้อมใจกันวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต และนับว่าโชคยังดีที่เสือโคร่งตัวดังกล่าวเป็นเสือที่มีนิสัยเชื่อง เนื่องจากเป็นเสือที่ทางวัดนำมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกวัน
แต่อย่างไรก็ตาม เสือโคร่งไม่ได้วิ่งกลับเข้าไปในหุบเสือ แต่กลับเดินหายไปกับความมืด นายศิริ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันออกค้นหาอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.จึงพบเสือโคร่งตัวดังกล่าวกำลังวิ่งไล่ตะปบลูกหมู่ป่าอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าวัดเสือ ซึ่งจังหวะนั้น คณะสัตวแพทย์มาถึงพอดีจึงใช้ปืนยิงยาสลบเข้าใส่ทันที และรอเวลาประมาณ 15 นาที เสือตัวดังกล่าวจึงหลับไป แล้วนำอุปกรณ์มาขนย้ายเข้ากรงส่งต่อไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า เมื่อเวลา 14.15 น. คณะสัตวแพทย์สามารถจับเสือโคร่งได้เพิ่มอีก 1 ตัว รวม 2 วัน สามารถจับเสือโคร่งได้ทั้งหมด 20 ตัว แต่คณะเจ้าหน้าที่ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากขณะนี้ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก
ล่าสุดได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า สามารถจับเสือได้แล้ว 33 ตัว รวมของเมื่อวานนี้ 7 ตัวเป็น 40 ตัว ทำให้ยังคงเหลือเสือที่ยังไม่สามารถจับได้จำนวน 97 ตัว แต่อย่างไรก็ตามคณะเจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าวางยาสลบอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะครบ 137 ตัว