ราชบุรี - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ นำเสือโคร่งจาก “วัดป่าหลวงตาบัว” กาญจนบุรี ชุดที่ 2 อีก 8 ตัว เดินทางมาถึงสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี รวมกับ 7 ตัวเดิม เป็น 15 ตัวแล้ว สัตวแพทย์ระบุต้องปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู และการให้อาหาร
เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทยอยขนย้ายเสือโคร่งจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ชุดที่ 2 อีกจำนวน 8 ตัว โดยใช้รถบรรทุก 2 คัน บรรทุกคันละ 4 ตัว หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ขนย้ายมาแล้ว 7 ตัว รวมเป็น 15 ตัว
โดยชุดที่ 2 จำนวน 8 ตัวนี้ ได้เดินทางถึงที่บริเวณกรงเสือโคร่งในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ในเวลาประมาณ 12.00 น. ซึ่งได้มีสัตวแพทย์ พร้อมรถพยาบาลติดตามดูแลเสืออย่างใกล้ชิดในระหว่างการเดินทาง มีรถนำขบวนใช้เส้นทางลัดเพื่อเลี่ยงปัญหาการจรจร ลดระยะเวลาการเดินทางเพื่อความปลอดภัยของเสือทุกตัว
หลังจากเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครนยกกรงเสือลงเพื่อนำไปใส่ไว้ในกรงใหญ่ที่เตรียมไว้ แต่ละตัวมีเจ้าหน้าที่หลายนายคอยช่วยกันประคองกรงเสือให้วางลงตรงหน้าประตูกรงเพื่อให้เสือเดินเข้ากรงเอง บางตัวยังคงสลบด้วยฤทธิ์ยาที่ได้วางยาสลบไว้ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำลงจากรถแล้วใช้สแลนสีดำคลุม จากนั้นใช้น้ำจากสายยางฉีดเพื่อคลายร้อน และให้เสือตื่นจากการหลับซ้ำ
นายภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ถือว่าการขนย้ายมีการทำการบ้านมาก่อนเรื่องระยะเวลาการขนย้ายอุปกรณ์รถยนต์ จำนวนคน และจำนวนเสือในการขนย้าย รวมถึงระยะทางการเดินทาง เจ้าหน้าที่ได้มีการหาเส้นทางลัดที่รถไม่ติด ระยะทางใกล้ที่สุด ตลอดการขนย้ายจะมีรถนำขบวน รถตาม มีเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ 3-4 นาย คอยประกบอยู่ตลอด ทำให้การขนย้ายถือว่าค่อนข้างคล่องตัวไม่มีปัญหา และอุปสรรคใดๆ
ส่วนอาการของเสือแต่ละตัวนั้น เสือทุกตัวก่อนที่จะขนย้ายจะฟื้นมีสติกลับมาทุกตัว เพียงแต่มีบางตัวที่อาจจะมีการหลับซ้ำ เพราะว่าเวลาที่อยู่ และเดินทางจะมีลมเย็นสบาย มีแสลนบังร่มไม่ค่อยร้อน บางตัวจึงมีอาการหลับซ้ำ เป็นเรื่องปกติ ไม่เครียด สังเกตได้จากเสือทุกตัวจะอยู่นิ่ง บางตัวดูท่าทางตื่นเต้นกับที่แห่งใหม่ที่จะมาอยู่ เพราะว่าทางพื้นที่มีการจัดเตรียมกรงที่มีอุปกรณ์หลายอย่างไว้ ทำให้เสือจะได้แสดงสัญชาตญาณ และพฤติกรรมตามธรรมชาติมากที่สุด ตามหลักการส่งเสริมพฤติกรรมสัตว์เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง โดยจะทำอย่างไรที่จะให้เสือที่มาอยู่ใหม่ได้เล่น ได้สัมผัสแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติที่เสือควรจะแสดง
การอยู่ในสถานีที่นี้จะเป็นการดึงสัญชาตญาณความเป็นเสือกลับมาถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก สำหรับการดูแล นอกจากเรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในกรงต่อสภาพแวดล้อม เรื่องการให้อาหารคงต้องมีการปรับ เนื่องจากเดิมทีเสือจะกินไก่ต้ม แต่ตามปกติเสือจะเป็นสัตว์ที่กินเนื้อสด กินของสด ดังนั้น ไก่ที่ต้มมาจะมีคุณค่าอาหารบางถูกความร้อนอย่างสูญเสียไป จึงอาจต้องมีการปรับอาหารจากของดิบมาเป็นอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และมาเป็นของสด จะมีกระบวนการในการปรับ แต่จะไม่มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงในทันที
อย่างไรก็ตาม แผนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะนำเสือโคร่งมาให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จำนวน 58 ตัว ส่วนที่เหลือจะมอบให้แก่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง เลี้ยงดูแล ซึ่งขณะนี้มีการขนย้ายมาอยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนแล้วรวม 15 ตัว