“เอไอเอส” ยันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเสาส่งมือถือไม่กระทบสุขภาพ

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เอไอเอสผนึกประชาสัมพันธ์ขอนแก่น จัดเสวนาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ยันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณมือถือไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เหตุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ ทั้งมีกำลังส่งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช.กำหนด ขณะที่โครงสร้างเสาส่งสัญญาณได้มาตรฐานวิศวกรรม สามารถทนแรงลมปะทะระดับพายุไต้ฝุ่น

วันนี้ (7 มิ.ย. 59) ที่ห้องประชาสโมสร 1 โรงแรมเซ็นทารา แอนด์คอนเวนชันเซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเอไอเอส ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จัดเสวนา “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ไม่อันตรายต่อสุขภาพ” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากภาครัฐผ่านสื่อมวลชนสู่สาธารณชน

นายอุดมศักดิ์ โสมคำ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริษัท แอดวาซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสตระหนักถึงความกังวลของประชาชนและคนในชุมชนเกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือว่ามีผลต่อสุขภาพจริงหรือไม่ เอไอเอสจึงร่วมกับสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น จัดเสวนาหัวข้อ “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ไม่อันตรายต่อสุขภาพ” ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน นำเสนอเผยแพร่ต่อสาธารณชน และยังเป็นการสอดรับกับนโยบายของ สำนักงาน กสทช.ในการเดินสายให้ความรู้กับประชาชนในประเด็นดังกล่าวทั่วประเทศ

นายธีรศักดิ์ อนันตกุล ผู้จัดการแผนกเทคนิคโครงข่ายโทรคมนาคม เอไอเอส กล่าวว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ประชาชนวิตกกังวลนั้น ความจริงแล้วไม่ได้ส่งผลกระทบสุขภาพร่างกายมนุษย์และสัตว์ เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าว มีกำลังส่งที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช.กำหนดไว้ เช่นเดียวกับโครงสร้างเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ที่ก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ กสทช. ดังนั้นประชาชนและผู้อาศัยอยู่บริเวณรอบเสาส่งสัญญาณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

จากงานวิจัยระบุว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามี 2 ประเภท คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลุ่มชนิดไม่ก่อไอออน (Non-ionizing radiation) ซึ่งเป็นย่านความถี่ชนิดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในมนุษย์และสัตว์ได้ เนื่องจากเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ จัดอยู่ในกลุ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ, คลื่นจากวิทยุ เอเอ็ม เอฟเอ็ม และโทรทัศน์ รวมถึงคลื่นจากวิทยุสื่อสารตำรวจหรือกู้ภัย และสัญญาณ WI-FI เป็นต้น

โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้กำหนดให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าประเภทนี้ อยู่ในกลุ่ม 2B ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับ กาแฟ แสงแดด (UV) และน้ำมันมะพร้าวที่ผสมกับไดเอทาโนลาไมด์ สำหรับทำให้เกิดฟองในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจำพวกแชมพู สบู่ รวมไปถึงเครื่องสำอาง และสารสกัด เป็นต้น โดยทั้งหมดถือเป็นกลุ่มที่อาจจะ หรืออาจจะเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น

“ปัจจุบันยังไม่มีผลวิจัยใดที่ชี้ชัดว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีผลกระทบทำให้เกิดโรคต่างๆต่อร่างกายมนุษย์ หรือสัตว์ เช่นเดียวกับ กสทช.ที่ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศมีเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช.กำหนดไว้ นายธีรศักดิ์กล่าว

อีกประเภท คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลุ่มชนิดก่อไอออน (Ionizing radiation) ซึ่งเป็นคลื่นที่มีต่ออะตอม และมีผลต่อการแยกอนุภาคอีเล็กตรอน ออกไปกลายเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง เช่น คลื่นจากรังสีแกมมา รังสีเอ็กซ์ เป็นต้น

นายธีรศักดิ์กล่าวต่อว่า ในประเด็นความปลอดภัยของโครงสร้างเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือนั้น ทางเอไอเอสได้ดำเนินการติดตั้งก่อสร้างตามหลักวิศวกรรม ตามมาตรฐานของสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และกสทช. ซึ่งในการดำเนินงานก่อสร้างจะปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด จึงมีความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างที่สามารถทนต่อแรงลมปะทะได้สูงถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับระดับความแรงของพายุไต้ฝุ่น หรือแม้แต่แผ่นดินไหว

“เอไอเอสขอยืนยันว่าการติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามมาตรฐานที่กสทช.กำหนดไว้ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่บนเสาส่งสัญญาณ ซึ่งได้การรองรับจากผู้ให้บริการทั่วโลกในการใช้งาน”