xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ลุยค้น “วัดป่าหลวงตาบัว” ผงะพบหนังเสือและลูกกรอกเสือถูกดองในโหลอื้อ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - จนท.กรมอุทยานฯ สนธิกำลังทหาร ตำรวจปูพรมค้น “วัดป่าหลวงตาบัว” วัดเสือชื่อดังเมืองกาญจน์ พบทั้งหนังเสือ 2 ซาก และซากลูกเสือโคร่งถูกดองในโหลอีกอื้อ หัวกระทิง รวมทั้งเขี้ยวเสือ ตะกรุด และจี้อีกจำนวนมาก ส่วนคนงานย่องบรรทุกหนังเสือ พร้อมของผิดกฎหมายอีกเพียบ แต่ไม่รอดโดนรวบคาประตู เตรียมปูพรมรอบ 2 พรุ่งนี้ (3 มิ.ย.) ด้านเสือโคร่งของกลางขนย้ายแล้ว 104 ตัว คาดจบ 3 มิ.ย.

วันนี้ (2 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี อนุมัติหมายค้น ที่ มค. 432/2559 ลงวันที่ 30 พ.ค.2559 ให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำการตรวจค้นวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีพระสุทธิสารเถร เป็นเจ้าอาวาส และประธานมูลนิธิ และนายอธิธัช ศรีมณี ผู้ดูแล

คณะเจ้าหน้าที่นำโดย นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายศิริ อัคคะอัคร ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ (ผอ.สปฟ.) นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานฯ นายสุนทร ฉายวัฒนะ ผอ.ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ นายชาญวิทย์ กันยา นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง และคณะสัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ เข้าดำเนินการยิงยาสลบเพื่อขนย้ายเสือ จำนวน 137 ตัว ซึ่งวันที่ 30 พ.ค.ขนย้ายได้ จำนวน 7 ตัว วันที่ 31 พ.ค.ขนย้ายได้จำนวน 33 ตัว วันที่ 1 มิ.ย.ขนย้ายเสือได้ จำนวน 24 ตัว และวันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น.ถึงเวลาประมาณ 11.00 น. คณะสัตวแพทย์สารถยิงยาสลบจับเสือโคร่งได้อีก จำนวน 20 ตัว และในช่วงบ่ายจับเสือได้อีก จำนวน 20 ตัว รวมปฏิบัติการจับเสือโคร่ง 4 วัน ได้เสือทั้งสิ้น จำนวน 104 ตัว ยังคงเหลือเสือโคร่งอีก จำนวน 37 ตัว

โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ตรวจพบซากลูกเสือโคร่งแรกเกิดอายุประมาณ 7 วัน จำนวน 40 ซาก ถูกแช่แข็งปะปนกับซากไก่ที่ใช้สำหรับเลี้ยงเสืออยู่ในห้องเย็นภายในเกาะเสือ นอกจากนี้ ยังมีซากหมีขอ จำนวน 1 ซาก ซากกระรอก 1 ซาก เขากวาง 5 เขา อวัยวะดองของลูกเสือ จำนวน 7 ขวด และ 10 กระป๋อง ซึ่งคณะวัตวแพทย์ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวอย่างไปพิสูจน์ DNA ว่า ซากเสือที่พบมีความเกี่ยวกข้องต่อเสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัวหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจ DNA คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะทราบผล ขณะเดียวกัน นายอดิศร นุชดำรง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้นิติกรกรมอุทยานฯ หารือกับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินการทางด้านกฎหมายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง

โดยในวันนี้ (2 มิ.ย.) เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. นายอดิศร ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เช่น เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ตร.ปทส.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานอื่นๆ ร่วม 500 นาย สนธิกำลังกันตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดที่มีอยู่ภายในวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบไม้มะค่าโมงแปรรูปขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในโรงเก็บของใกล้กับศาลาวัด จึงทำบันทึกตรวจยึด ก่อนที่จะขนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ส่วนการขนย้ายเสือในช่วงเช้าคณะสัตวแพทย์สามารถทำได้ตามเป้าหมาย คือ จำนวน 20 ตัว

ต่อมา คณะทั้งหมดได้ไปแถลงข่าวในเวลา 11.00 น. เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา โดยหลังจากแถลงข่าวแล้วเสร็จ นายอดิศร นุชดำรง ได้รับแจ้งจาก นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง ว่า เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบริเวณประตูทางเข้าวัดป่าหลวงตัวบัวฯ ตรวจค้นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ชษ 5583 กทม.วิ่งออกมาจากวัด เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นภายในรถ ผลปรากฏว่า พบย่ามพระวางอยู่กับพื้นแค็บหลัง เจ้าหน้าที่จึงเปิดออกมาดูเมื่อพบถึงกับผงะ เนื่องจากภายในย่ามมีซากหนังเสืออย่างสมบูรณ์ จำนวน 2 ซาก

รวมทั้งตะกรูดที่ทำจากหางเสืออีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงนำโต๊ะมาตั้ง และนำของกลางที่มีอยู่ออกมาตรวจสอบ โดย นายอดิศร ได้รีบเดินทางมอสอบปากคำคนขับที่มาด้วยกัน 2 คนด้วยตนเอง ทราบชื่อคนขับคือ นายเนตร กุลเรืองไกล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/15 หมู่ 4 ตงลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และนายก้องเกียรติ จันเพ็ง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ

สำหรับของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้ ประกอบด้วย ซากหนังสือ 2 ซาก ตะกรุดที่ทำจากหางเสือ จำนวน 1035 ชิ้น จี้รูปหลวงตาจันทร์ 13 อัน และจี้หลวงตาบัว 65 อัน เขี้ยวเสือ 9 อัน เบื้องต้น ทั้ง 2 คน ให้การว่า พระลูกวัดใช้ขับรถขนสิ่งของจำนวนดังกล่าวออกจากนอกวัด โดยไม่ทราบว่าจะให้เอาไว้ที่ไหน แต่เพราะพวกตนเป็นคนงานในวัดจึงยอมทำตาม ซึ่งก็ทราบดีว่าสิ่งของดังกล่าวนั้นผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ นายอดิศร กำลังซักถามบุคคลทั้ง 2 อยู่นั้น ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า กำลังที่เข้าไปตรวจค้นกุฏิของพระสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดฯและประธานมูลนิธิวัดป่าฯ พบหัวกระทิง รวมทั้งเขี้ยวเสือ ตะกรุด และจี้ลักษณะเดียวกันกับที่ตรวจยึดเอาไว้ได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยมีพระลูกวัดอยู่ภายในกุฏิ

จากนั้นมีพนักงานที่เลี้ยงดูเสือโคร่งได้มาพบเจ้าหน้าที่ และแจ้งว่า ภายในบ้านพักคนงานมีซากลูกเสือโคร่งดองเอาไว้ในโหลอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจสอบ พบว่า มีอยู่จริง นับรวมกันได้ จำนวน 30 ซาก จึงมอบหมายให้คณะสัตวแพทย์นำซากจำนวนดังกล่าวไปพิสูจน์

นอกจากนี้ คณะเจ้าหน้าที่ยังได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้นบริเวณอาคารพักของพระสงฆ์ที่ก่อสร้างด้วยปูนภายในมีรถยนต์ จำนวน 1 จอดอยู่โดยใช้ผ้าใบคลุมเอาไว้อย่างมิดชิด ส่วนผนังอาคารทำเป็นชั้นวางของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบเขี้ยวเสือ ตะกรุด รวมทั้งจี้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้หยุดภารกิจการตรวจค้นเนื่องจากฝนได้ตกลงมาอย่างรุนแรง และจะทำการปูพรมตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายที่มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง โดยในขณะนี้ คณะเจ้าหน้าที่นำโดย นายอดิศร นุชดำรง รองอธิบดีกรมอุทยาน ฯพร้อมคณะทั้งหมดได้นำของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้ในครั้งนี้ไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่บริเวณอาคารศูนย์บัญชาการชั่วคราว ริมถนนสาย 323 หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี คาดว่าภายในเวลา 17.30 น.ก็คงจะเริ่มแถลง











กำลังโหลดความคิดเห็น