ราชบุรี - สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดราชบุรี นำผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ และขับรถโดยประมาทในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดูงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ ทั้งผู้ที่อยู่ในอาการสาหัสต้องผ่าตัดสมอง รวมไปถึงผู้ประสบอุบัติแขน ขา หักที่โรงพยาบาลราชบุรี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (26 พ.ค.) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดราชบุรี ได้นำผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ และขับรถโดยประมาทในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จำนวน 14 คน เข้าศึกษาดูงานด้านอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลราชบุรี โดยได้ให้ผู้ถูกคุมประพฤติทั้งหมดเรียนรู้ถึงขั้นตอน และการปฏิบัติตัวในระหว่างการทำงานบริการสังคม และความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถ จากนายแพทย์สิโรตน์ ศรีมหาดไทย แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชบุรี
ก่อนที่ผู้ถูกคุมประพฤติจะได้เดินทางไปยังห้องศัลยกรรมและระบบประสาท ชั้น 4 ตึกกาญจนาภิเษก เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุ ทั้งผู้ที่อยู่ในอาการสาหัสต้องผ่าตัดสมอง รวมไปถึงผู้ประสบอุบัติแขน ขา หัก ซึ่งผู้ป่วยจากอุบัติทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการขับรถประมาท ที่แต่ละวันจะมีผู้เข้ารับการรักษาตัวเฉลี่ยวันละ 30-50 ราย มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้านศัลยกรรม และระบบประสาทเฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 2 ราย
นายสมชาติ เจริญวิลาศพงษ์ เลขานุการชมรมอาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า การนำผู้ถูกคุมประพฤติเข้าศึกษาดูงานด้านอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลราชบุรีดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงผลลัพธ์จากการทำผิดพระราชบัญญัติจราจรว่ามีมากมายเพียงใด โดยให้เรียนรู้จากสภาพความสูญเสียจริง เพื่อที่จะได้เกิดความตระหนักในขณะขับรถ การกระทำผิดไม่ว่าจะเป็นการฝ่าไฟแดง ดื่มสุราในขณะขับรถ แม้กระทั่งใช้โทรศัพท์โดยประมาทระหว่างที่ขับขี่รถ เน้นให้ผู้ถูกคุมประพฤติเห็นถึงความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นต่อบุคคลอื่น รวมไปถึงบุคคลที่ 3 เช่น ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะปัญหาสังคมที่อาจจะเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ขับขี่รถ ที่สำคัญคือ ผลกระทบทางด้านจิตใจที่ไม่สามารถประเมินค่าได้
อย่างไรก็ดี กิจกรรมการผู้ถูกคุมความประพฤติคดีเมาแล้วขับ และขับรถประมาทครั้งนี้ เป็นการดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดด้วยการทำงานบริการสังคมที่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับมาตรการลงโทษผู้กระทำผิดคดีขับรถขณะเมาสุราให้มีความเข้มข้น เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รู้ถึงความทุกข์ทรมาน การสูญเสียสมรรถภาพจากการได้รับบาดเจ็บอันเกิดจากอุบัติเหตุทางถนน โดยบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล หรือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้กระทำผิดเกิดจิตสำนึก และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับขี่ให้มีความปลอดภัยทางถนนมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการลดอุบัติเหตุทางถนนได้อีกทางหนึ่ง