ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายชุมชนและภาคประชาชนเชียงใหม่ คัดค้านแนวคิดประเคนลานประตูท่าแพให้ผู้ค้าตั้งร้านจำหน่ายสินค้า ชี้แม้จะอนุญาตเฉพาะวันอาทิตย์ และมีการลดจำนวนผู้ค้าเหลือ 264 รายจากเดิมนับพัน แต่เป็นการละเมิดสิทธิ และประโยชน์ส่วนรวมจากการปล่อยให้เอกชนเข้าแสวงหาประโยชน์บนพื้นที่สาธารณะ ย้ำชัดคนเชียงใหม่ไม่เอาด้วย เตรียมทำหนังสือยื่นผู้ว่าฯ และ ผบ.มทบ.33 ให้พิจารณาทบทวนยกเลิกโดยด่วนที่สุด
จากกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่ มณฑลทหารบกที่ 33 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมทั้งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวคิดเกี่ยวกับการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ลานประตูท่าแพ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อการจะอนุญาตให้ผู้ค้าจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพ ซึ่งเบื้องต้น มีการกำหนดจะจัดสรรพื้นที่ 40% ให้เป็นที่สาธารณะ และ 60% จะอนุญาตให้ทำการค้าขายได้ โดยพื้นที่สาธารณะ 40% จะเป็นบริเวณลานตรงกลางหน้าประตูท่าแพที่จะปล่อยให้เปิดโล่ง
ขณะที่ส่วนที่อนุญาตให้ค้าขายซึ่งจะมีการอนุญาตเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวเท่านั้น ระหว่างเวลา 18.00-23.00 น. จะเป็นพื้นที่ด้านข้างที่จัดสรรให้รองรับผู้ค้าได้ 264 ราย ซึ่งลดลงจากเดิมในช่วงที่ยังไม่มีการจัดระเบียบที่มีประมาณ 1,000 ราย
นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อแนวคิดดังกล่าวที่จะมีการอนุญาตให้กลุ่มผู้ค้านำสินค้าต่างๆ ไปตั้งร้าน หรือวางจำหน่ายบนลานประตูท่าแพ แม้จะมีการอนุญาตเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ลานประตูท่าแพ เป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนชาวเชียงใหม่ทุกคน รวมทั้งนักท่องเที่ยวควรจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ สำหรับการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่ไม่ใช่การอนุญาต หรือปล่อยให้คนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ หรือเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในเชิงธุรกิจบนพื้นที่สาธารณะดังกล่าว
ส่วนที่มีการให้เหตุผลระบุว่า การดำเนินครั้งนี้เป็นการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ โดยมีการจัดสรรพื้นที่ 40% ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ และมีการเปิดโล่งบริเวณตรงกลางลานประตูท่าแพ และไม่มีการบดบังทัศนียภาพของตัวประตูท่าแพ รวมทั้งผู้ค้าที่ได้รับการอนุญาตจะลดลงเหลือเพียง 264 ราย จากเดิมที่มีนับพันรายนั้น
มองว่าเป็นการกล่าวอ้างที่บิดเบือนความต้องการของประชาชนชาวเชียงใหม่ที่มีการเรียกร้องให้มีการจัดระเบียบลานประตูท่าแพ จนกระทั่งมีการห้ามผู้ค้าตั้งร้านจำหน่ายสินค้าในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากความต้องการที่แท้จริงของชาวเชียงใหม่ก็คือ ไม่ต้องการให้มีการตั้งร้านจำหน่ายสินค้าใดๆ หรือการทำกิจกรรมที่เป็นการแสวงหาประโยชน์ในเชิงธุรกิจอีกอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ มองว่าหากทางจังหวัดเชียงใหม่ มณฑลทหารบกที่ 33 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมทั้งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ค้าให้มีพื้นที่ หรือแหล่งจำหน่ายสินค้าเพื่อประกอบอาชีพ ก็ควรจะจัดสรรหรือหาพื้นที่ในจุดอื่นที่มีความเหมาะสมกว่านี้ แต่ไม่ใช่การนำลานประตูท่าแพ หรือพื้นที่สาธารณะไปจัดสรรผู้ค้าที่เป็นเอกชน เพราะเท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิ และประโยชน์ของส่วนรวม
จากกรณีดังกล่าวนี้ เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ จะเร่งพูดคุยหารือกันในเครือข่ายที่ประกอบด้วย ผู้แทนจากชุมชนต่างๆ และภาคประชาชนเพื่อกำหนดท่าที และจุดยืนต่อกรณีนี้ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่ต่างคัดค้านการอนุญาตให้ผู้ค้าจำหน่ายสินค้าบนลานประตูท่าแพ โดยภายในสัปดาห์นี้จะมีการทำหนังสือคัดค้านเข้ายื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เพื่อให้พิจารณาทบทวนยกเลิกแนวความคิดดังกล่าว