ฉะเชิงเทรา - โจรเดินสายกระชากตู้บริการด้านการเงินแบบด่วน ล่าสุด แม้แต่ตู้ “บุญเติม” บริการด้านการเงินค่าโทรศัพท์มือถือก็ไม่รอดเงื้อมมือ ขณะภาพวงจรปิดตามรายทางสามารถบันทึกภาพยานพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไว้ได้ ด้านเจ้าของเดือดเตรียมเสนอตั้งรางวัลนำจับให้เจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่สามารถชี้เบาะแสให้ทำการจับกมคนร้ายได้ จำนวน 1 หมื่นบาท
วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ชาวบ้านในบริเวณหมู่บ้านหน้าวัดขวัญสะอาด เขตพื้นที่ ม.1 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกมาจับกลุ่มยืนดูร่องรอยของคนร้ายในบริเวณด้านหน้าร้านค้าขายของชำประจำหมู่บ้าน ของ นายเทียน สุดสะอาด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 ม.1 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 02.08 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้รถยนต์เก๋งสภาพเก่าเข้ามาก่อเหตุใช้เหล็กเส้นที่นำมาเชื่อมดัดแปลงต่อกันทำเป็นลวดสลิง ดึงกระชากเอาตู้เติมเงินด่วนโทรศัพท์มือถือ (บุญเติม) หายไปจากหน้าร้าน
ท่ามกลางชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์จำนวนหลายรายที่แอบซุ่มมองดูพฤติกรรมของคนร้ายในระหว่างการก่อเหตุอยู่ห่างๆ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเดินออกมา เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย ก่อนที่คนร้ายจะสามารถกระชาก และยกเอาตู้บริการเติมเงินด่วนโทรศัพท์มือถือไปได้ พร้อมด้วยเงินสดที่มีอยู่ภายในตู้ จำนวน 8,849 บาท หลบหนีไปได้อย่างลอยนวล และได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้คือ เหล็กเส้นที่ใช้ในงานก่อสร้างขนาด 2 หุนครึ่ง ที่ได้มีการเชื่อมติดกันเป็นห่วงคล้องแบบลวดสลิง ยาวประมาณ 4 เมตร เอาไว้ให้ดูต่างหน้า
โดย นายเทียน กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.คืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุมีคนร้ายใช้รถยนต์เก๋งสภาพเก่า ตามที่ชาวบ้านข้างเคียงเห็นเหตุการณ์ระบุว่า เป็นรถยนต์คันสีแดง ได้ใช้ลวดสลิงเข้ามาคล้องตู้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ “บุญเติม” ที่ตั้งอยู่ที่โคนเสากลางแผงประตูทางเข้าหน้าร้าน ก่อนที่จะขับกระชากเอาตู้เติมเงินดังกล่าวไป โดยลากไปไกลถึงกว่า 300 เมตร ก่อนที่คนร้ายจะหยุดรถจอดลงมานำตู้เติมเงินขึ้นรถขับหลบหนีไปตามเส้นทางมุ่งหน้าไปทางวัดสุทธาวาส ซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถทะลุผ่านออกไปถึงยังถนนสาย 304 (สุวินทวงศ์) มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา ได้
โดยระหว่างเกิดเหตุนั้นได้มีชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์จำนวนหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าที่จะร้องบอก เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยเพื่อนบ้านจึงต่างพากันซุ่มมองดูพฤติกรรมของคนร้ายอยู่ห่างๆ ในความมืด ซึ่งคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ที่ขับรถเข้ามาลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่
ขณะที่ นายสมพร ไทยทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/42 หมู่บ้านไลโอ ม.7 ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ให้บริการตู้เติมเงินบุญเติมในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี กล่าวว่า หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำการจับกุมตัวคนร้ายได้ตนจะให้เงินรางวัลนำจับ จำนวน 1 หมื่นบาท หรือหากมีผู้ที่สามารถชี้เบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ตนก็จะจ่ายรางวัลให้ จำนวน 1 หมื่นบาทเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมานั้นได้เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้มาหลายครั้งแล้ว
แต่ในครั้งที่ผ่านๆ มา นั้น การก่อเหตุของคนร้ายจะกระทำการด้วยวิธีการยกโจรกรรมเอาตู้ไป ทั้งในย่านตลาดเขตเทศบาลตำบลบางวัว อ.บางปะกง และบริเวณใกล้เคียงกับหน้า อบต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คนร้ายใช้วิธีการนำรถยนต์มากระชากลากเอาตู้ออกไป ขณะนี้ก็คงยังต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการติดตามเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายต่อไป โดยเฉพาะหมายเลขทะเบียนรถ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เฉพาะตู้เติมเงินด่วนค่าโทรศัพท์นั้นมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นบาทต่อตู้